วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ไฮสปีดเทรน-สี่แยกอินโดจีน หนุน "พิษณุโลก" เศรษฐกิจขาขึ้น
นาทีนี้ พิษณุโลกเป็นอีก 1 จังหวัดที่ได้รับผลพวงจากโครงการลงทุนระบบรถไฟความเร็วสูงโดยตรง และมีความตื่นตัวมากที่สุด
เมืองซึ่งได้อานิสงส์จากการถูกกำหนดในยุทธศาสตร์การพัฒนาให้เป็น "สี่แยกอินโดจีน" มาก่อนหน้านี้แล้วยิ่งทวีความคึกคัก และฉายภาพของการเป็นศูนย์กลางการค้า เศรษฐกิจ และการลงทุนของภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งจะเชื่อมโยงต่อไปถึงการค้าและการขนส่งในระดับภูมิภาคอีกด้วย
นั่นทำให้นอกจากจะเกิดปรากฏการณ์ที่กลุ่มทุนขนาดใหญ่ทั้งในธุรกิจค้าปลีกและวัสดุก่อสร้าง ยกขบวนเข้าไปปักธงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, แม็คโคร, เซ็นทรัล, อินเด็กซ์,
ไทวัสดุ ฯลฯ แล้ว กระแสความตื่นตัวของการพัฒนาที่ดิน และการขยายเมืองออกไปในทุกทิศทางก็ยังปรากฏอย่างต่อเนื่อง โดยไม่จำเป็นต้องพูดถึงสถานการณ์การปรับตัวของราคาที่ดิน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 2-3 เท่าในช่วงเวลา 1 ปีที่ผ่านมา
นางเปรมฤดี ชามพูนท ที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก มองปรากฏการณ์ดังกล่าวว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการเตรียมความพร้อมของเมือง เพื่อรองรับการเป็นสี่แยกอินโดจีนได้
อย่างมีระบบ ลงทุนและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเอาไว้เป็นอย่างดี
เมื่อมีโครงการรถไฟความเร็วสูงมาจึงช่วยกระตุ้นเพิ่มอีกทางหนึ่ง จึงเห็นภาพได้อย่างชัดเจน
"แนวโน้มใหม่ที่รัฐบาลกำลังผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูง ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลง การวางแผนและการพัฒนาเมืองพิษณุโลกในระยะต่อไปด้วย สิ่งที่เกิดขึ้นทันทีคือ ราคาที่ดินพุ่งไปรอล่วงหน้าแล้ว ตึกแถวราคากลายเป็น 5 ล้าน ในซอยยัง 2-3 ล้านแล้ว มันไปเร็วกว่าที่คิด บ้านจัดสรรยังสร้างไม่พอขาย ตอนนี้ที่ดินรอบในไม่พอ
เขาก็ขยายออกไปนอกเขตเทศบาลเยอะแล้ว เราเห็นแล้วว่ารถไฟความเร็วสูงจะมาเร่งการเติบโต เราก็ต้องยิ่งต้องเตรียม
รองรับการขยายเมือง เตรียมให้เมืองสะอาด สะดวก น่าอยู่"
สอดคล้องกับมุมมองของ "นายมนต์ชัย วิวัฒน์ธนาฒย์" นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) พิษณุโลก ที่ย้ำว่า ต้องพิจารณาเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน เรื่องสิ่งแวดล้อม ปัญหาแรงงาน ซึ่งสิ่งเหล่านี้พิษณุโลกก็กำลังเผชิญอยู่ท่ามกลางกระแสการเติบโตแบบก้าวกระโดด
"ขณะนี้โครงการรถไฟความเร็วสูงก็จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่คนพิษณุโลก นักธุรกิจ นักลงทุนให้ความสนใจมาก การจัดงานงานไทยแลนด์ 2020 ที่พิษณุโลก มีทีมของรัฐบาลมาให้ข้อมูลและรับฟังความ
คิดเห็น ก็ได้รับความสนใจสูงมาก"
นายมนต์ชัยเชื่อว่า เมื่อมีโครงการรถไฟความเร็วสูง จะมีการพัฒนาสถานี อาจต้องใช้ที่ดินราชพัสดุ เลือกจุดที่เหมาะสมเพื่อไม่ต้องเสียค่าเวนคืน ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นเมืองก็จะขยายต่อไปอีก เกิดประโยชน์แน่นอนสำหรับการเดินทาง ธุรกิจการท่องเที่ยว เมื่อการเดินทางสะดวกมากขึ้น
ขณะที่ นางสาวดิลกา ชามพูนท ผู้อำนวยการบริหาร โรงแรมอมรินทร์ ลากูน พิษณุโลก กล่าวว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจใน จ.พิษณุโลก รวมถึงการท่องเที่ยวยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการลงทุนสร้างห้องพัก โรงแรมในขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก
อย่างไรก็ตาม โรงแรมขนาดใหญ่ก็ยังมีการปรับตัวและปรับปรุงอยู่เรื่อย ๆ โดยมีกลุ่มนักท่องเที่ยว กรุ๊ปสัมมนา รวมถึงกลุ่มที่มาจากองค์กรธุรกิจต่าง ๆ เป็นลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างสม่ำเสมอ
เช่นเดียวกับธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งนางชาลินี นิ่มพิทักษ์พงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด โรงพยาบาลพิษณุเวช กล่าวว่า ด้วยปัจจัยที่เมืองพิษณุโลกมีการพัฒนา มีการค้าการลงทุนที่สดใส ทำให้มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และโรงพยาบาลพิษณุเวชก็สามารถขยายบทบาทบริการการแพทย์ได้อย่างต่อเนื่อง
เมื่อถามถึงทิศทางการยกระดับบริการการแพทย์ของโรงพยาบาลพิษณุเวชในอนาคต นางชาลินีระบุว่า ด้วยบทบาทการเป็นสี่แยกอินโดจีน และเชื่อว่าหลังเปิดเออีซี โรงพยาบาลพิษณุเวชจะมุ่งจับกลุ่มคนไข้จากประเทศเพื่อนบ้านได้มากขึ้น
"เราจะมองกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น พม่า เรากำลังดูอยู่ เพราะมีคนมาจากแม่สอด เมียวดี มะละแหม่ง มาใช้บริการโรงพยาบาลที่พิษณุโลก เมื่อเราได้ JCI เปิดเออีซีแล้วเดินทางเข้าออกง่ายขึ้น จำนวนผู้ใช้บริการก็จะเพิ่มขึ้น และอีกไม่นานนกแอร์ก็กำลังจะเปิดไฟลต์บินจากมะละแหม่งมาเมียวดี เราก็มองว่านี่เป็นโอกาสสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่"
นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความคึกคักและความคาดหวังจากภาคธุรกิจต่าง ๆ บนกระแสความตื่นตัว พร้อมกับมุมมองที่เชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของพิษณุโลกกำลังเติบโต ขยายตัวได้ในทุก ๆ มิติ ด้วยปัจจัยจากทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม เป็นศูนย์กลางการค้าการขนส่ง
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยสนับสนุนทั้งจากการเป็นสี่แยกอินโดจีน และโครงการรถไฟความเร็วสูงที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)