วันศุกร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2557

3 เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพคุณสาว ๆ แค่ดื่มก็สวยได้



 Drink Yourself Beautiful แค่ดื่มก็สวยได้ (Lisa)

          สุขภาพและความงามไม่ใช่แค่เรื่องภายนอก แต่สะท้อนออกมาจากภายใน และไม่ใช่แค่อาหารที่ส่งผลต่อสุขภาพและความงาม หากสิ่งที่คุณดื่มก็ช่วยได้ 


ชาเขียว

          การดื่มชาเขียวเป็นประจำช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น รวมถึงช่วยย่อยอาหาร เพิ่มการเผาผลาญ และลดแม้กระทั่งความเสี่ยงโรคมะเร็ง ฉะนั้น ลืมกาแฟตอนเช้าซะ แล้วหันมาดื่มชาเขียวที่ไร้แคลอรี่แทน แค่จำไว้ว่ามันก็มีคาเฟอีน เพราะฉะนั้นอย่าดื่มก่อนนอน เพื่อจะได้ไม่รบกวนการนอนของคุณ

ทหารห่วง'ชุดดำ'ป่วน!เลือกตั้งเลือด


ทหารห่วง'ชุดดำ'ป่วน!เลือกตั้งเลือด จับตาเงื่อนไขจลาจล-กองกำลังต่างชาติ : ทีมข่าวความมั่นคงรายงาน

             การเลือกตั้งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ถูกจับตามองด้วยความห่วงใยว่า จะเป็นการ "เลือกตั้งเลือด" หรือไม่ เพราะเหตุการณ์วันเลือกตั้งล่วงหน้าเมื่อวันที่ 26 มกราคม ที่หน้าหน่วยเลือกตั้งวัดศรีเอี่ยม ซึ่ง นายสุทิน ธราทิน แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ถูกยิงเสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก อาจเป็นเพียง "หนังตัวอย่าง" ฉากเล็กๆ ฉากหนึ่งเท่านั้น

             เจ้าหน้าที่ความมั่นคงระดับสูงแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์วันเลือกตั้งที่อาจเกิดการปะทะ และนองเลือดระหว่างกลุ่มคนที่คัดค้านไม่ให้มีการเลือกตั้งกับกลุ่มคนที่สนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง

             “ผบ.เหล่าทัพ เป็นห่วงว่าจะเกิดความรุนแรงขึ้น เพราะรัฐบาล และกปปส. ได้ประกาศเดินหน้าตามเจตนารมณ์ของตัวเองไปแล้ว โดยไม่สนใจว่าจะเกิดความรุนแรงในวันเลือกตั้งหรือไม่ แม้ว่าที่ผ่านมาผบ.เหล่าทัพ จะส่งสัญญาณคัดค้าน แต่สุดท้ายรัฐบาล และกปปส. ก็ไม่ฟัง ต่างฝ่ายต่างมั่นใจในมวลชนที่สนับสนุนตนอยู่ จึงไม่ฟังเสียงคัดค้านใดๆ"

'สุเทพ'นำกปปส.เดิรณรงค์ค้านลต.วันที่2

"สุเทพ" เลขากปปส. นำมวลชน กปปส.ทุกเวที เดินรณรงค์เชิญชวนประชาชนออกมาชุมนุมใหญ่ วันที่ 2 ก.พ. เป็นวันที่ 2
          วันที่  31 ม.ค.57  เมื่อเวลา 10.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. จะเดินนำมวลชน กปปส. ทุกเวที ที่มารวมตัวกันอยู่ที่เวทีลาดพร้าว เคลื่อนขบวนรณรงค์เรียกร้องประชาชน ออกมาร่วมชุมนุมใหญ่ในวันที่ 2 ก.พ. เพื่อแสดงจุดยืนให้มีการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งวันนี้จะเป็นการเดินรณรงค์วันที่ 2 โดยเส้นทางที่ใช้ในการเคลื่อนมวลชนมวันนี้เริ่มจากเวทีห้าแยกลาดพร้าว มุ่งถนนลาดพร้าวถึงแยกรัชดา-ลาดพร้าว เลี้ยวขวา เข้าถนนรัชดาภิเษก ตรงผ่านไปจนถึงตึกฟอร์จูน จากนั้นมวลชนแยกย้ายกลับเวทีของตนเอง สิ้นสุดภารกิจ

วันพุธที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2557

รับประทานอาหารอย่างไรให้ผิวขาว


        สำหรับสาวๆที่มีผิวคล้ำหลายคน คงจะหาทุกวิถีทาง เพื่อที่จะทำให้ผิวของคุณดูขาวขึ้น บางคนถึงกับต้องพึ่งสารเคมี เช่น การฉีดผิวขาว การกินยาผิวขาว หรืออื่นๆ ซึ่งมีส่วนผสมของสารเคมีทั้งหลาย รู้หรือไม่ว่า เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างมาก ถึงแม้ว่าคุณสาวๆจะมีผิวที่ไม่ขาว ถึงอย่างไรก็ยังมีอาหารจากธรรมชาติ ซึ่งทำให้คุณผิวขาวได้อย่างง่ายๆ นั่นคือ
น้ำมะพร้าว ลูกกลมๆมีน้ำข้างในอย่างลูกมะพร้าว น้ำของมันมีประโยชน์อย่างมาก เนื่องจากในน้ำมะพร้าวจะมีสารเอสโตรเจนที่ช่วยสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ซึงทำให้ผิวพรรณของคุณเนียนใส ดูมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น
ชาเขียว เป็นน้ำที่นิยมอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก เพราะชาเขียวมีสารต้านอนุมูลอิสระมาก จึงมีส่วนช่วยขับสารพิษออกจากร่างกายทำให้ผิวสวยสดใส ทั้งยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและป้องกันฟันผุได้อย่างดี
ธัญพีช ที่มีอยู่ทั่วไปลและหาง่าย เช่น ถั่วทุกชนิด ซึ่งนอกจากจะให้สารอาหารครบถ้วนทั้งวิตามิน โปรตีน และ เกลือแร่แล้ว เหล่าบรรดาข้าวโอ๊ต ข้าวสาลี งา ต่างๆ ยังมีไฟเบอร์ที่ช่วยขับสารพิษสะสมในร่างกาย ช่วยให้ผิวขาวสว่างใสอีกด้วย
นมถั่วเหลือง ซึ่งนอกจากจะมีไอโซเฟลโวน ซึ่งเป็นสารอนุมูลอิสระแล้ว ยังมีวิตามินแทบทุกชนิดที่ให้คุณประโยชน์ดี ๆ กับผิวพรรณและร่างกาย ไขมันน้อย สำหรับใครที่อยากขาวและอยากลดความอ้วนคงต้องพึ่งนมถั่วเหลืองจะช่วยได้มากๆเลย
ปลาทะเลน้ำลึก นอกจากจะมีโปรตีน และ กรดอะมิโนจำเป็นจากปลาทะเลน้ำลึกแล้ว ยังจะช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน และเนื้อเยื่อ ในร่างกาย ทำให้ผิวอ่อนเยาว์เปล่งปลั่ง อาทิ ปลาแซลมอน และ ปลาทูน่า เป็นต้น
ผักและผลไม้ สิ่งเหล่านี้มีเบต้าแคโรทีน และวิตามิน ซี อีสูงที่ช่วยในการลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวพรรณตึงกระชับสดใสมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าคุณประโยชน์ของสิ่งเหล่านี้มีมากแค่ไหน ซึ่งในยุคปัจจุบัน ได้มีครีมบำรุงผิวมากมายได้นำเอาสารสกัดจากผักและผลไม้มาใช้กัน เพื่อความสวยความงานของคุณผู้หญิงโดยเฉพาะ

'ปชป'ไม่แปลกใจ!ผล'รบ.-กกต.'ไม่เลื่อนลต.

'ปชป.'ไม่แปลกใจ ผลถก'ยิ่งลักษณ์-กกต.' เหตุ 'รัฐบาล' มีธงไม่เลื่อน 'ลต.' เมิน 'ความสูญเสีย-ล้มตาย' ของ 'ปชช.'



                      29 ม.ค.57 นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หารือกันถึงการเลื่อนวันเลือกตั้ง ว่า ผลที่ออกมาตนไม่แปลกใจ เพราะเป็นที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เพราะรัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป และยืนยันเดินหน้าเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ไม่ว่าประชาชนจะต้องสูญเสีย มีการบาดเจ็บล้มตาย และการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นโมฆะ และการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นจะมีสภาผู้แทนราษฎรที่สมบูรณ์หรือไม่ อาจต้องใช้เวลามากกว่า 6 เดือน ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจ ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการเดินหน้าไปสู่วันเลือกตั้ง 
 
                     "ขณะนี้ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่า นอกจากการกระชับอำนาจตัวเองผ่านการเลือกตั้ง วันที่ 2 ก.พ.ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องเดินไปให้ถึง และยุทธศาสตร์ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การใช้กำลังข่มขู่ คุกคามประชาชนที่เห็นต่าง ตนยืนยันว่า ขณะนี้มียุทธศาสตร์ที่จะทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวกับประเทศไทยและกทม. โดยขณะนี้มีกองกำลังที่ทราบฝ่ายว่าเป็นฝ่ายเดียวกับรัฐบาลออกปฏิบัติการอยู่ทั่วพื้นที่กทม." โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

อิสสระปล่อยแกนนำย่อยนำมวลชนเคลื่อนขบวน

'อิสสระ สมชัย' ส่งสัญญาณแกนนำย่อย นำมวลชนห้าแยกลาดพร้าว เคลื่อนขบวนแล้ว ยังไม่เผยสถานที่
บรรยากาศการชุมนุมปิดกรุงเทพมหานคร ของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือ กปปส. ที่เวทีห้าแยกลาดพร้าว ล่าสุด นายอิสสระ สมชัย แกนนำ กปปส. ได้ส่งสัญญาณให้แกนนำย่อยนำมวลชนเคลื่อนขบวนแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยสถานที่ แต่ นายอิสสระ ไม่ได้ร่วมขบนด้วย เพราะต้องนำเจ้าหน้าที่กลุ่มงานเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุยิงเอ็ม 79
ทั้งนี้ รูปแบบขบวนมีรถขยายเสียงขนาดใหญ่นำ ตามด้วยรถกระบะอาสาสมัคร และรถจักรยานยนต์การ์ด กปปส. บางส่วนจะขับล่วงหน้าในการเคลียร์เส้นทาง โดยก่อนหน้านี้ นายอิสสระ ระบุว่า รถเมล์ที่ว่าจ้างรับส่งมวลชนได้ปฏิเสธการจ้าง เนื่องจากถูกกดดันไม่ให้รับงานอีก

Best time to visit Phitsanulok


There are three months out of the year that are considered the best time to visit Phitsanulok, and those are April, June, then skipping a few months and then going  in November. However, many visitors come to Phitsanulok in January so that they can take part in the Wat Phra Sri Rattana Mahathat fair during which the Phra Buddha Chinnarat is not only honored but downright feted.

On days that are simply considered too hot to be outdoors, many find solace from the heat by going to The Buddha Chinnarat National Museum. There one may while away cooler hours looking through the wonderful and very sizeable collection of period art that goes back to the Sukhothai period.  

The cooler nighttime and evening temperatures will often tempt those who relish seeing the city but are simply too warm or tired from other expeditions. The solution is of course to flag an empty rickshaw or a Sam Raw, which is the name of those three wheeled bicycles you’ll see zipping around. The ride is somewhat cool as there is some wind created as your driver exerts himself to zip you around. Many find the trip to be very romantic too.

You may also find that you will be kept naturally cool by visiting the tremendously gorgeous waterfalls that are found in many of the natural parks in Phitsanulok. Should you find yourself fin Phitsanulok during October, you will find all manner of entertainment being available. Tjese include boat races as well as boat processions.











 






น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร

 
 น้ำตกแก่งซอง

น้ำตกปอย

น้ำตกแก่งโสภา

ถนนคนเดิน

วันอังคารที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2557

ผลวิเคราะห์อุตสาหกรรมไทยมั่นใจศักยภาพแข่งขันรับAEC (แนะนำ)

นายสมชาย หาญหิรัญ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผย ผลกระทบจากการเข้า สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในภาคอุตสาหกรรม ว่า
จากการวิเคราะห์ถึงศักยภาพของประเทศไทย พบว่ามีจุดแข็งที่สำคัญได้แก่
1. ประเทศไทยมีแรงงานที่มีทักษะฝีมือเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ
2. มีวัตถุดิบทางการเกษตรที่มีศักยภาพ ทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ และมีผลผลิตที่หลากหลาย เช่น ข้าว ยางพารา อ้อย ผักและผลไม้สด เป็นต้น
3. มีที่ตั้งเหมาะสมในด้าน การเป็นศูนย์กลางภูมิภาค ทำให้มีข้อได้เปรียบหลายด้าน โดยเฉพาะการขนส่ง และ
4. การคมนาคมขนส่งทั้งทางบกและทางอากาศครอบคลุมและรองรับได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนจุดอ่อนที่สำคัญมี 5 ข้อ ได้แก่
1. ภาคการผลิตของไทยยังมีประสิทธิภาพต่ำ เห็นได้จากข้อมูลการสำรวจปัจจัยในการแข่งขันทั้ง 4 ด้านที่สถาบัน IMD ได้ดำเนินการ สำรวจไว้
2. การขาดแคลนแรงงานจากค่านิยมเกี่ยวกับการทำงาน และการเรียนที่ผิดๆ โดยให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์มากกว่าการนำไปใช้จริง
3. การกระจุกตัวของพื้นที่อุตสาหกรรมทำให้เกิดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางรายได้ และการอพยพแรงงานเข้ามาหางานทำในกทม. และปริมณฑล รวมทั้ง ในพื้นที่ภาคตะวันออก
4.อุตสาหกรรมหลักของประเทศยังต้องพึ่งพาเงินทุนจากต่างประเทศ และ
5. สินค้าอุตสาหกรรมยังมีการเชื่อมโยงวัตถุดิบจากภาคการเกษตรไม่มากนัก แม้ว่าภาคการเกษตรจะมีความสำคัญกับประเทศมาอย่างช้านาน

5 ทรงผม เปลี่ยนแล้ว รับรองหน้าเด็กลง!

สาวๆ ทั้งหลาย ใครที่อยากหาเคล็ดลับเพื่อให้หน้าดูเด็กลง ขอให้ลองอีกวิธีที่ง่ายๆ ดู นั่นก็คือการเปลี่ยนทรงผม ที่จะทำให้หน้าของเราเด็กลงได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ มาดูกันดีกว่าว่าเราต้องทำอย่างไรกับ ทรงผม เราบ้าง…..

เทคนิคที่ 1 ลองเปลี่ยนการแสกผมดู – อาจจะไม่เชื่อว่าแค่การเปลี่ยนแสกผมจะทำให้หน้าเด็กลงได้จริงหรือ แต่อยากให้สาวๆ ลองทำตามดู เพียงแค่เปลี่ยนการแสกผมมาด้านตรงข้ามกับปัจจุบัน ก็จะทำให้หน้าเราดูเด็กลงได้เลยล่ะ

เคล็ดไม่ลับ สลายไขมัน เซลลูไลท์-น่องโต-ต้นขาใหญ่




          เรื่องของไขมันสะสมในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่เพียงแค่ที่หน้าท้องหรือพุงเท่านั้นที่ทำให้สาว ๆ รู้สึกกังวล หรือหมดความมั่นใจ เมื่อต้องลุกขึ้นแต่งชุดสวย แต่ไขมันหรือที่เราเรียกว่าเซลลูไลท์บริเวณต้นขา ตลอดจนเรียวขานี่แหละก็เป็นเรื่องสำคัญไม่น้อยหน้าไปกว่าการกลัวมีแผลเป็น ที่เรียกว่าขาลายเลย
    
          ดังเห็นได้จากคลินิกเพื่อความงามต่าง ๆ มักจะมีส่วนของการให้บริการสลายไขมันหรือเซลลูไลท์บริเวณขา น่อง และต้นขา ซึ่งธุรกิจนี้ดูเหมือนจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและก้าวกระโดด

          อย่ากระนั้นเลยค่ะ คุณสาว ๆ รู้หรือเปล่าว่าสองมือของเราก็จัดการกับเซลลูไลท์ด้วยตัวเองได้ โดยไม่ต้องไปพึ่งพาใคร หรือควักเงินไปจ่ายคลินิกให้เปลืองสตางค์ ขอเพียงแต่คุณตั้งใจและกระทำอย่างสม่ำเสมอเป็นคำตอบสุดท้ายเท่านั้น

เจ๊ดา ดารุณี โผล่ใส่เสื้อขาว จุดเทียนชวนเลือกตั้ง

(28 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 27 มกราคม ที่หน้าโรงเบียร์ฮอลแลนด์ ถนนพระรามสอง กลุ่มไทยฟรีดอม ร่วมเชิญชวนประชาชนย่าน ถนนพระราม 2 จุดเทียนเพื่อรณรงค์การเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. โดยกลุ่มไทยฟรีดอม ได้จัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้นมาหลายครั้งแล้ว เพื่อต้องการแสดงพลังให้กลุ่ม กปปส. ยุติการชุมนุม และสนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง เพื่อให้คนไทยได้ใช้สิทธิ์ของตนเอง ซึ่งกิจกรรมมีการร่วมกันร้องเพลงชาติ จุดเทียนขึ้นพร้อมกับตะโกนรงณรงค์ให้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
อย่างไรก็ตาม ในกิจกรรมดังกล่าวได้มี นางดารุณี กฤตบุญญาลัย หนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ใส่เสื้อสีขาวมาร่วมงานด้วย

นายกฯถกแก้จำนำข้าว-บ่ายปมเลื่อนลต.

นายกฯประชุม ครม. ถกแก้จำนำข้าว บ่ายหารือร่วม กกต. ปมเลื่อนเลือก


          วันที่ 28 ม.ค.57 ผู้สื่อรายงานว่าในช่วงเช้า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางมายังสโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี เพื่อเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ตามปกติที่มีขึ้นทุกวันอังคาร  โดยวาระในการประชุมวันนี้คาดว่าจะหารือถึงสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. และความคืบหน้าในการจ่ายเงินให้กับเกษตรกรชาวนาในโครงการรับจำนำข้าว
  
          และจากนั้นในเวลา 14.00 น. วันเดียวและสถานที่เดียวกัน นายกรัฐมนตรี จะร่วมหารือเรื่องการเลื่อนวันเลือกตั้งตามที่ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โดยมีตัวแทนจากฝ่ายรัฐบาลประกอบด้วย นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี  ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) นายชัยเกษม นิติสิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  
          ทั้งสำหรับบรรยากาศภายนอกนสโมสรทหารบกในช่วงเช้ายังไม่มีกลุ่มมวลชนกปปส.หรือกลุ่มใดเดินทางมาชุมนุม ส่วนภายในสโมสรทบ.มีการเสริมมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน(คฝ.)และเจ้าหน้าที่ทหารจำนวนหนึ่งเตรียมรับมือหากมีมวลชนมาชุมนุม

วันจันทร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2557

ศรส. ประเมินภาพรวม ลต.ล่วงหน้า ไม่ถือเป็นปัญหาหนัก


ศรส. ประเมินภาพรวม ลต.ล่วงหน้า ไม่ถือเป็นปัญหาหนัก ม็อบขวางแค่ กทม. และภาคใต้เท่านั้น เตรียม จนท. ช่วย กกต. ทำงานต่อ ยัน มีหัวรุนแรงแฝงตัวในผู้ชุมนุม
พล.ท.ภราดร พัฒนฐาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะเลขานุการ ศรส. เปิดเผยกับสำนักข่าว INN ว่า จากการประเมินภาพรวมการเลือกตั้งล่วงหน้า ไม่ถือว่าเป็นปัญหาหนัก เพราะว่า มีเพียงเขตกรุงเทพมหานคร และภาคใต้เท่านั้น ที่มีการประท้วงคันค้านอย่างรุนแรง ซึ่งหากมีการเดินหน้าเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ. ทาง ศรส. ได้เตรียมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงชุดพิเศษไว้สนับสนุนการทำหน้าที่ของ กกต. แล้ว แต่ต้องรอการร้องขอจาก กกต. เพราะที่ผ่านมา กกต. ไม่ได้ร้องขอกำลังพิเศษแต่อย่างใด ส่วนการขอคืนพื้นที่ แม้ กปปส. จะยืนยันว่าไม่ได้บุกรุก แต่การชุมนุมก็ขัดขวางการบริการประชาชน เจ้าหน้าที่ไม่สามารถทำงานได้ ศรส. ก็จะเข้าเจรจาตามขั้นตอน และให้เวลา 24 ชั่วโมง ก่อนจะมีมาตรการขั้นต่อไป
พร้อมกันนี้ พล.ท.ภราดร ยังกล่าวด้วยว่า ทาง ศรส. ได้มีการติดตามความเคลื่อนไหว ข่าวสาร รวมถึงเหตุรุนแรงอย่างต่อเนื่อง และย้ำว่ายังมีพวกหัวรุนแรงแฝงตัวอยู่ในผู้ชุมนุมเพื่อก่อเหตุอยู่จริง ส่วนเรื่องคดีความต่างๆ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนมีความคืบหน้าไปมากแล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้มีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการออกมาเท่านั้น



อยากผมสวยสุขภาพดีจริง นี่คือ 5 สิ่งที่ต้องเลี่ยง

         สาวคนไหนมีผมสวย ก็เหมือนได้พรดี ๆ มาข้อหนึ่งเลยล่ะค่ะ ผมสวยสุขภาพดีจะช่วยเสริมลุคและบุคลิกของคุณให้ดูดีตามไปด้วย และหากคุณต้องการรักษาผมให้สวยสุขภาพดีแบบนี้ต่อไปนาน ๆ ก็ต้องดูแลให้เหมาะ รวมทั้งเลี่ยงสิ่งที่จะมาทำร้ายเส้นผม ซึ่งล้วนเป็นเรื่องใกล้ตัวกันทั้งนั้นเลยค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าคุณต้องระวังในเรื่องอะไรบ้าง 


        1. การใช้น้ำยาย้อมผมที่เป็นเคมี 
          น้ำยาทำสีผมสูตรเคมี ประกอบด้วยสารเคมีหลายชนิดที่จะทำงานร่วมกันเพื่อแทรกสีลงไปในเส้นผมของคุณ ผมของคุณจะอ่อนแอลงทันทีหลังการทำสีผม และหากไม่ได้รับการดูแลอย่างถูกต้องหลังจากนั้น คุณก็จะสูญเสียสุขภาพที่ดีของเส้นผมไป ทั้งในแง่การงอกยาว และความแข็งแรงของเส้นผม นอกจากนี้สารเคมีในน้ำยาทำสีผมยังอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ทางผิวหนัง กระตุ้นอาการหืดหอบ หรือความผิดปกติทางระบบทางเดินหายใจได้ด้วย

        2. เครื่องประดับผมที่ดึงรั้งผมมากเกินไป
          เเอคเซสเซอรี่สำหรับเส้นผมบางอย่างก็เป็นอันตรายกับเส้นผมคุณได้ เช่น กิ๊บผมที่ติดแน่นเกินไป ยางรัดผมที่รัดแน่นเกิน หรือยางไม่มีความยืดหยุ่นเท่าที่ควรจะเป็น สิ่งเหล่านี้จะรั้งรากผมให้ตึงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เจ็บหนังศีรษะ และหากใช้ติดต่อกันเป็นประจำ ก็ทำให้เกิดอาการผมร่วงตามมา

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งเร่งรัดคดียิง 'สุทิน' เสียชีวิต

ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งเร่งรัดคดียิง 'สุทิน' เสียชีวิต พร้อมให้ จเรตำรวจ ตั้งกรรมการสอบผู้รับผิดชอบพื้นที่ รายงานผลใน 7 วันทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เผยแพร่หนังสือด่วน ลงนามโดย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ที่สั่งการให้เร่งรัดสืบสวนและจับกุมผู้กระทำผิดจากเหตุการณ์ปะทะที่วัดศรีเอี่ยม เขตบางนา จนเป็นเหตุให้ นายสุทิน ธราทิน ผู้ประสานงาน กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ถูกยิงเสียชีวิตและมีผู้บาดเจ็บหลายคน โดยหนังสือดังกล่าวระบุว่า เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย ดังนั้นเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงกำชับการปฏิบัติดังนี้ ให้ รองผบ.ตร. ลงไปควบคุมกำกับดูแลและเร่งรัดการสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ทราบและจับกุมผู้กระทำผิดให้ได้โดยเร็วที่สุด ให้ จเรตำรวจ ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้รับผิดชอบทั้งในระดับสถานีตำรวจนครบาลและกองบังคับการ

ดื่ม"กาแฟ"ทุกวัน อาจช่วยทำให้ความจำดีขึ้น

หลายคนดื่มกาแฟแต่เช้า เพราะรู้สึกว่าดื่มแล้วช่วยทำให้เราไม่ง่วงนอน ช่วยทำให้เรากระปรี้กระเปร่า อันเป็นผลมาจากคาเฟอีน แต่ผลการวิจัยล่าสุด พบว่าคาเฟอีนมีประโยชน์มากกว่าการไปกระตุ้นสมองให้ตื่น เพราะมันยังอาจจะสามารถช่วยเพิ่มความจำที่ดีขึ้นให้กับเราได้ด้วย

ผลการวิจัยของนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ ในเว็บไซต์เนเจอร์ นูโรไซน์ซ เกี่ยวกับการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของคาเฟอีนต่อความทรงจำ โดยไม่รวมเอาปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อความทรงจำมารวมเข้าด้วย ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าคาเฟอีนมีผลช่วยกระตุ้นความทรงจำหลังการดื่มคาเฟอีนเข้าไปแล้วอย่างน้อย 24 ชั่วโมง


เคล็ดลับ แต่งหน้า ท้าลมหนาว

อากาศหนาวมาเยือนกันอีกแล้ว ช่วงนี้ต้องระวังเรื่องการ แต่งหน้า กันหน่อยนะคะ เพราะอากาศแห้ง ๆ แบบนี้จะทำลายการแต่งหน้าของคุณได้ดีเชียว แต่เราก็มีเคล็ดลับง่าย ๆ มาฝาก ที่จะช่วยให้คุณผู้หญิงแต่งหน้าท้าลมหนาวได้อย่างมั่นใจ
1.ก่อนลงมือ แต่งหน้า ทุกครั้ง ทาครีมบำรุงผิวให้ใบหน้าชุ่มชื้น อย่างเต็มที่
2.ใช้ซิลิโคนเบสรองพื้น จะดีกว่าในอากาศเย็นและทารองพื้นให้มากขึ้น
3. เลี่ยงเครื่องสำอางที่เป็นของเหลว เพราะไม่ค่อยทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
4. เลือกมาสคาร่าและอายไลเนอร์ ที่กันน้ำ
5. อย่าใช้แป้งฝุ่น จะทำให้ผิวหนังแห้งแตก
6. หลีกเลี่ยง เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของวาสลีนที่จะแข็งตัวเมื่อเจออากาศหนาว เช่น อายแชโดว์ อายครีม
7. ลิปบาล์ม จะให้ความชุ่มชื้นได้ดีกว่าลิปกลอส
8. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้าโทนสีแดง เพราะในหน้าหนาวแก้มคุณจะเป็นสีแดงจากเลือดฝาดอยู่แล้ว
9. อย่าแต่งหน้าจัดเกินไป เพราะเมื่อเปลี่ยนจากนอกบ้านมาเป็นในบ้าน อุณหภูมิจะเปลี่ยนไปส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือดที่ผิวหน้า

ขอบคุณที่มาจาก Modernmom 

ทำงานบ้านคือการออกกำลังกาย

      ออกกำลังกาย เสียเหงื่อ รับรองไม่เสียงาน ไม่เสียเวลา แถมสุขภาพแข็งแรง!!

      วันนี้ มีวิธีออกกำลังกายสำหรับแม่บ้านพ่อบ้าน ที่วัน ๆ ต้องทำงานบ้านกันอย่างหนักหน่วง จนทำให้ไม่มีเวลาออกกำลังกาย หรือบางครั้งเวลาพอมี แต่กวาดบ้านถูบ้านกันจนไม่มีแรกออกไปเสียเหงื่อ รับรองว่าไม่เสียงาน ไม่เสียเวลา เพราะมันเป็นการออกกำลังกายระหว่างการทำงานบ้านนั่นเอง

    บก.จร. ตรวจสอบการปิด จร. ของม็อบ กปปส. ที่เวทีราชประสงค์ ยังคงปิดเช่นเดิม


    บก.จร. ตรวจสอบการปิดการจราจรบริเวณที่มีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่ตั้งเวทีบริเวณแยกราชประสงค์ วันนี้ (27 ม.ค. 57) ยังคงปิดการจราจร ดังนี้ ถนนราชดำริ จาก แยกศาลาแดง รถสามารถมาได้ถึง แยกราชดำริสารสิน, ช่วง แยกราชดำริสารสิน - แยกราชประสงค์ - แยกประตูน้ำ ปิดการจราจรทั้ง 2 ฝั่ง, ถนนเพลินจิต จากแยกเพลินจิต รถวิ่งมาได้ถึงแยกชิดลม และจะปัดให้รถเลี้ยวซ้ายแยกชิดลม, ช่วงแยกชิดลม - แยกราชประสงค์ ปิดการจราจร, ถนนพระรามที่ 1 จาก แยกราชประสงค์ - แยกเฉลิมเผ่า - แยกปทุมวัน ปิดการจราจร

    บันได 5 ขั้น สู่ชีวิตใหม่ ที่มีค่าและเป็นสุข


    มีคนส่งบทความนี้มาให้ ตอนแรกก็คิดว่าไม่น่าสนใจ แต่พอเปิดอ่านดูพบว่า เป็นการสรุป เทคนิคการทำให้ชีวิตเป็นสุข ที่บางข้อส่วนตัว ผมใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน.. อยากให้คนทีมีความทุกข์ หรือมีปัญหาอยู่ ลองอ่านบทความเหล่านี้ดูนะครับ ผมว่ามันดีมากๆ เลย แต่อ่านจบแล้วสิ่งที่ยากที่สุด คือการนำมันไปปฏิบัติจริงๆ นะครับ ดังนั้น ระหว่างที่อ่าน ลองนึกตามด้วยนะครับ ว่าเราจะนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้ในชีวิตจริงของเรายังไงครับ

     บันได 5 ขั้น สู่ชีวิตใหม่ ที่มีค่าและเป็นสุข

    บันไดขั้นที่ 1 มองตัวเองว่าดีและมีค่าทุกวัน ในแต่ละวันให้ นึกถึงความดี และความโชคดีของตนเอง  เริ่มต้นด้วยการ……..
    1. ตื่นนอนตอนเช้า ให้ยิ้มกับตัวเอง และนึกว่าโชคดีที่ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว
    2. ให้ นึกถึงความดีของตนเอง ที่เคยทำมาแล้วในอดีต (ที่สามารถนึกได้ง่ายๆ) เช่น เคยทำบุญ เคยช่วยคนที่อ่อนแอกว่า เคยสงเคราะห์สัตว์ ฯลฯ คิดว่าตัวเองดี และมีคุณค่าที่ได้เคยทำสิ่งดีๆ และให้นึกซ้ำๆ จะได้เกิดความเชื่อตามที่นึกนั้น คุณก็จะเกิดความอิ่มเอิบใจ และเชื่อว่าตัวเองมีความดี ความเก่ง ตามความเป็นจริงในขณะนั้นด้วย คุณจะเกิดความอยากมีชีวิตอยู่ และสร้างสิ่งที่ดีๆ ให้กับชีวิตต่อไป และ
    3. ต้องอวยพรตัวเองเสมอๆ อย่าแช่ง หรือตำหนิตัวเอง และอย่ารอให้คนอื่นมาชื่นชมคุณ ซึ่งมักจะไม่ได้ดั่งใจ หรือได้มาก็ไม่สมใจ
    บันไดขั้นที่ 2 มองคนอื่นดี มองโลกในแง่ดี ขั้นนี้คุณจะต้องมองว่า…..
    1. ทุกๆ คน มีขีดจำกัดของความสามารถ ความดี ความเก่งกันทุกคน ตามความเป็นจริงของเขา ซึ่งไม่เท่ากัน และไม่เหมือนกันเลย
    2. ส่วนความไม่ดี หรือไม่เก่งของเขา (ซึ่งมีกันทุกคน) ปล่อยให้เป็นเรื่องของเขาไป ให้มองเฉพาะส่วนที่ดีของเขาเท่านั้น ถ้าคุณทำได้เช่นนี้ คุณก็จะเป็นคนที่มองอนาคต และชีวิตดี มีความหวังที่ดีในชีวิตตลอดเวลา สองสิ่งนี้ ถ้าคุณทำเป็นนิสัย คุณจะพบว่า โลกนี้มีสิ่งที่ดีๆ และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคต่างๆ และท้ายที่สุดก็จะกลายเป็นสุขนิยมทั้งชีวิต
    บันไดขั้นที่ 3 ทำวันนี้ให้ดีที่สุด คือ…..
    1. การ อยู่กับปัจจุบัน ทำกิจกรรมในวันนี้และเวลานี้ให้ดีที่สุด ทำได้แค่ไหนเอาแค่นั้น ไม่ทุกข์ร้อน หรือคาดหวังกับผลลัพธ์ของมัน ไม่ว่าจะสมใจ หรือไม่สมใจก็ตาม
    2. จงชื่นชมในความตั้งใจ ทำเต็มความสามารถของตนเอง และคิดต่อว่า ในอนาคตจะต้องทำให้ดีกว่านี้ นอกจากนั้น
    3. คุณต้อง เลิกจดจำ หรือนึกถึงเรื่องที่ไม่ดีที่เกิดกับคุณในอดีต เพราะการจดจำเรื่องราวที่ไม่ดีในอดีต เท่ากับคุณไปสะกิดแผลในใจ และจะทำให้คุณเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น จนส่งผลให้ปัจจุบันคุณไม่มีความสุข และกลัวว่าอนาคตจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีซ้ำๆ อีก

    บันไดขั้นที่ 4
    1. จงนึกและบอกกับตัวเองเสมอว่า อนาคตจะดีขึ้นอีกเรื่อยๆ จะส่งผลให้เกิดกำลังใจมากขึ้น อยากพบเห็นสิ่งต่างๆ ที่จะเข้ามาในชีวิตโดยไม่กลัว
    2. มีอารมณ์ขัน และไม่จริงจังกับชีวิตมากนัก แต่จะมีความหวังที่ดีๆ (Good Hope) อยู่เสมอ แต่อย่ามีความคาดหวัง ( Expectation) กับชีวิต เพราะถ้าคาดหวังกับชีวิต เรามักจะกลัว หรือกังวลว่าจะไม่ได้ผลลัพธ์ดังความคาดหวัง หรือเมื่อได้มาแล้วก็มักไม่พอใจ จึงอาจทำให้เกิดทุกข์ได้

    บันได้ขั้นที่ 5 ปรับปรุงตัวเองเสมอ โดยปรับปรุง 4 ส่วนที่มีความสำคัญต่อชีวิต คือ
    1. การงาน ให้มีความขยัน อดทน หมั่นหาความรู้ใส่ตัว และกล้าลงมือปฏิบัติในสิ่งที่ควรทำ จะทำให้มีการลงมือทำสิ่งใหม่ๆ ในชีวิตได้เรื่อยๆ และปรากฏเป็นผลงานที่ชัดเจน
    2. ครอบครัว จะต้องยึดหลักที่เป็นมงคลต่อกันคือ ไม่อิจฉา ไม่ระแวง ไม่แข่งขัน ไม่นอกใจ รู้จักการให้และการอภัย มีน้ำใจ และรู้จักเกรงใจกัน
    3. สังคม หมั่นสร้างมิตรเสมอ มีการให้ความสำคัญกัน ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน และพูดจากันแบบปิยะวาจา
    4. ตนเอง ต้องมีการพัฒนาตนเองเสมอ มีความภูมิใจตนเองตามความเป็นจริง สามารถให้กำลังใจตัวเองได้ และมีกำลังใจที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่ดีขึ้น

    วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

    บ้านนายกฯ ยังเรียบร้อย ไร้กลุ่ม กปปส. ป่วน



    คาด 'ยิ่งลักษณ์' ยังพักผ่อน ติดตามข่าวปิดล้อมหน่วยเลือกตั้ง

    บรรยากาศบ้านพักของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ซอยโยธินพัฒนา 3 ขณะนี้ ยังคงเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย ไม่มีผู้ชุมนุมของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระพระมหากษัตริย์ทรงประมุข (กปปส.) เดินทางมาปิดล้อมแต่อย่างใด โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังคงสับเปลี่ยนกองกำลังดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ขณะที่ ไม่พบคณะรัฐมนตรี หรือบุคคลสำคัญ เดินทางเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่อย่างใด
    ทั้งนี้คาดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ยังคงพักผ่อนภายในบ้านพัก พร้อมกับติดตามรับรายงาน และประเมินสถานการณ์จากศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) ถึงกรณีการปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งล่วงหน้าของกลุ่ม กปปส. อย่างใกล้ชิด

    6 อาหาร อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ ฟันสวย แข็งแรงทนทาน


    นอกจากการแปรงฟัน งดกิน อาหาร จำพวกของหวานแล้ว 6 อาหาร เหล่านี้ คือ อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้ ฟันสวย แข็งแรงทนทาน
    1. แอปเปิ้ล รสหวานลิ้น ไม่เหนียว ช่วยเรียกน้ำลายได้ดี เพราะน้ำลายคือ กลไกธรรมชาติที่ร่างกายใช้ชะล้างเศษอาหารและปรับสภาพความเป็นกรด-ด่างในปาก
    2. แครอท ความกรอบจะช่วยให้เหงือกสะอาดและฟันแข็งแรง ช่วยกำจัดเศษอาหาร มีเส้นใยช่วยให้ปากสะอาด ช่วยเรียกน้ำลาย
    3. แครนเบอร์รี่ มีสารประกอบที่สามารถป้องกันไม่ให้แบคทีเรียเกาะติดฟัน และสกัดกั้นการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์
    4. กีวี เป็นหนึ่งในสิบของสุดยอดอาหารเพื่อความงาม มีวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงฟัน
    5. ลูกเกด คืออาหารที่นักวิจัยที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยด์ในชิคาโก สหรัฐอเมริกาพบว่า มีกรดโอเลียโนอิก ซึ่งเป็นสารพฤษเคมีที่การทดลองในห้องแล็ปพบว่า ยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรียในช่องปาก โดยกรดโอเลียนิกที่ความเข้มข้น 31 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ช่วยป้องกันแบคทีเรีย เอส.มิวแทนส์ไม่ให้เกาะผิวฟัน และที่ความเข้มข้น 62 ไมโครกรัมต่อมิลลิลิตร ช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อพอร์ฟีโรโมนาส กิงกิแวลิส อันเป็นตัวการสำคัญของโรคเหงือกอักเสบ
    6. วาซาบิ ซึ่งจากผลการวิจัยเบื้องต้นพบว่า วาซาบิมีสารไอโซธิโอเซียเนต ซึ่งยับยั้งการเติบโตของเชื้อ เอส.มิวแทนส์


    ที่มาจากนิตยสาร ชีวจิต

    คำสั่ง(ก่อน)เสีย2กุมภาฯ?'สมพงษ์'ท้าโหวตคว่ำ'ชินวัตร'

    คำสั่ง(ก่อน)เสีย 2 กุมภาฯ? 'สมพงษ์'ท้าโหวตคว่ำ'ชินวัตร' : โดย...หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ / บุษราคัม ศิลปลาวัลย์

                          แม้ “คนบนท้องถนน”เชื่อว่าการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออกจากวิกฤติความขัดแย้ง แต่ “คนในพรรคเพื่อไทย” ยังคิดว่า นั่นคือคำตอบแรกที่จะนำไปสู่การแก้โจทย์ใหญ่ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศไทย 
                         แม้ “พรรคประชาธิปัตย์”งดปรากฏกายในสนามเลือกตั้ง แต่คำสั่งจาก “วอร์รูมเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย”ชัดเจนว่า ทั้งโปสเตอร์-รถแห่-แผนเคาะประตูบ้านพบปะมวลชนต้องดำเนินต่อไปท่ามกลางภาวะไม่ปกติที่เกิดขึ้น ทั้งการประกอบพิธีกรรมประชาธิปไตยภายใต้การประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การชวนเชิญประชาชนเข้าคูหาทั้งที่รู้ว่าไม่สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ 
                         แม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยก็มีส่วนสร้างความพิกลขึ้นกับกระบวนการเลือกตั้งที่ก่อรูปอย่างพิการ ด้วยเหตุผลหลีกเลี่ยงเหตุปะทะกับ “มวลมหาประชาชน”ผู้ประกาศโค่นล้ม“ระบอบทักษิณ”จึงไม่มีนโยบาย “ทักษิณคิด” ส่งมาให้ “เพื่อไทยทำ” ไม่มีการประกาศชื่อคนที่จะถูกชูขึ้นเป็น “นายกฯ คนที่ 29”อย่างเป็นทางการ 
                         ก่อนปัญหาว่าด้วยอำนาจในการเลื่อน-ไม่เลื่อนวันเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ จะถูกชี้ขาดโดยศาลรัฐธรรมนูญ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นั่งสนทนากับ “เครือเนชั่น” ข้าง “วอร์รูมเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย” บางแผนอาจต้องปรับ บางแผนถึงขั้นล้มพับไปตามแต่สถานการณ์ที่รัฐบาลไม่อาจเป็นผู้กำหนดเกม

    นักท่องเที่ยวแห่ขึ้นภูหินร่องกล้า ดู “แม่คะนิ้ง” ทั้งที่บ้านร่องกล้า หน่วยหมันแดง

     
       
     วันนี้ (26 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านใหม่ร่องกล้า หมู่ 10 ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก ภายในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ยังคงเกิดปรากฏการณ์แม่คะนิ้งต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 แล้ว แม้ว่าวันนี้อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 7 องศาเซลเศียส อุณหภูมิยอดหญ้า 3 องศาเซลเซียส แต่ก็ยังมีน้ำค้างแข็งยอดหญ้าให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน เพียงแต่ไม่มากเหมือน 3 วันที่ผ่านมาเท่านั้น เนื่องจากอุณหภูมิอบอุ่นขึ้น
       
     อย่างไรก็ตาม เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันหยุด ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า และชมปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งยอดหญ้ากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เมื่อมีน้ำค้างแข็งเกาะทั้งบนพื้นหญ้าทั่วไป และบริเวณหลังคารถ ไร่กะหล่ำของชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง ตั้งแต่เวลา 05.00-07.00 น.

     

     นายสุวรรณ ภานุนำภา หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า กล่าวว่า วันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้ มีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวชมปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งบนยอดหญ้าที่บ้านใหม่ร่องกล้า และที่หน่วยหมันแดงจำนวนมาก ส่งผลให้บ้านพักเต็มทุกหลัง แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวสามารถพักในเต็นท์ที่ทางอุทยานฯ จัดไว้ได้

    วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

    ข่าว พิษณุโลก เดือนมกราคม พ.ศ. 2557

    ข่าว พิษณุโลก 31 มกราคม 2557
    สลด! ผอ.รพ.สต.บางระกำ หายไปครึ่งปี พบเป็นศพเปื่อยยุ่ยคารถในคลองชล


     
    23:50 น. 22:40 น. ชาวนาพิษณุโลกนัดขับอีแต๋นเข้ากรุงเทพฯ1 กพ. 
    18:23 น. ชาวนาพิษณุโลกยั๊วะ! วิ่งทวงเงินจำนำข้าวทั่วเมืองยังแห้ว-ด่า“รบ.ขี้โกง” 
    13:15 น. สลด! ผอ.รพ.สต.บางระกำ หายไปครึ่งปี พบเป็นศพเปื่อยยุ่ยคารถในคลองชล
    กปปส.นำชาวนา บุกทวงเงินจำนำข้าว จวนผวจ.พิษณุโลก
    01:36 น. กปปส.นำชาวนา บุกทวงเงินจำนำข้าว จวนผวจ.พิษณุโลก 
    ข่าว พิษณุโลก 29 มกราคม พ.ศ 2557
    11:30 น. 09:55 น. พิษณุโลก วันจ่ายคึกคักเงินสะพัดตลาดสดเมืองพิษณุโลก 
    10:04 น. เมืองสองแคววันจ่ายคึกคักเงินสะพัดตลาดสดเมืองพิษณุโลก 
    ข่าว พิษณุโลก 28 มราคม พ.ศ 2557

    09:14 น. ชาวนาพิษณุโลกปักหลักแยกอินโดจีน ให้ผู้ว่าฯ เข้ากรุงทวงเงินจำนำข้าว 
    ข่าว พิษณุโลก วันที่ 27 มกราคม พ.ศ 2557
    11:54 น. ม็อบชาวนาปิดแยกอินโดจีน อ.เมือง จ.พิษณุโลก ร้องขอข้าวคืนจากรัฐบาล 
    ข่าว พิษณุโลก 26 มกราคม พ.ศ.2557
    13:50 น. แห่ขึ้นภูหินร่องกล้า หลังเกิดแม่คะนิ้งต่อเนื่อง 4 วันซ้อน 
    12:16 น. รถบัสขนนักเรียนโรงเรียนดังเมืองอุบลฯ ตกไหล่ทางเจ็บ 6 ราย 
    ข่าว พิษณุโลก 24 มกราคม พ.ศ. 2557 (3 ข่าว)
    12:16 น. ริมทาง “ภูหินร่องกล้า-ภูทับเบิก” ขาวโพลน แม่คะนิ้งยังโผล่เต็ม 
    11:45 น. จ.พิษณุโลกยอดดอยหนาวมาก ติดลบ 4 องศา เกิด′แม่คะนิ้ง′ขาวโพลน 
    11:21 น. โชว์เต็ม! จระเข้น้ำจืดตัวเขื่องโผล่คลองชมพู-ยาว 3 เมตรหนัก
    เป็นร้อย กก.
    ข่าว พิษณุโลก 23 มกราคม พ.ศ. 2557 (13 ข่าว)
    ชาวนาเมืองกล้วยไข่-กปปส.ปิดตายสี่แยกสลกบาตร

    ภูหินร่องกล้าหนาวสุดรอบ 20 ปี อุณหภูมิลบ 3 แม่คะนิ้งยาว 3 กม.

    ชาวนาพิษณุโลกลุกฮือเรียกร้องรัฐ ขู่เข้ากรุงร่วม กปปส.

    มาแล้ว! ชาวนาพิษณุโลก ฮือปิดแยกอินโดจีน ทวงเงิน รบ.ปู
    19:30 น. พบจระเข้น้ำจืดในคลองชมภู อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ขึ้นมา
    อาบแดดนานร่วมชั่วโมง 
    17:00 น. ชาวนาเมืองกล้วยไข่-กปปส.ปิดตายสี่แยกสลกบาตร
    15:45 น. ผงะ!พบต้นประดู่อายุ100 ปี โดนโค่นแปรรูปกลางป่าสงวนแห่งชาติ 
    จ.พิษณุโลก  

    14:25 น. ชาวนาพิษณุโลกสลายตัว ให้เวลา 7 วัน ไม่ได้เงินจำนำข้าวรวมพล
    ปิดถนนใหม่ 
    14:21 น. มอดไม้เหิมล้มไม้ประดู่อายุกว่า 100 ปีตัดเป็นท่อนมหึมากลางป่า
    สงวนสองแคว 
    12:24 น. ภูหินร่องกล้าหนาวสุดรอบ 20 ปี อุณหภูมิลบ 3 แม่คะนิ้งยาว 3 กม. 
    12:06 น. ชาวนาพิษณุโลกปิดถนนแยกอินโดจีนทวงเงินจำนำข้าว
    12:06 น. ชาวนาพิษณุโลกปิดถนนแยกอินโดจีนทวงเงินจำนำข้าว
    12:01 น. ชาวนานัดบุกกรุง 25 ม.ค.กดดันรัฐบาลเร่งจ่ายเงินจำนำข้าว 
    11:44 น. ชาวนาพิษณุโลกลุกฮือเรียกร้องรัฐ ขู่เข้ากรุงร่วม กปปส. 
    10:31 น. มาแล้ว! ชาวนาพิษณุโลก ฮือปิดแยกอินโดจีน ทวงเงิน รบ.ปู 
    ข่าว พิษณุโลก 20 มกราคม พ.ศ. 2557 (4 ข่าว)
    ฮือ!ปิดถนนอุตรดิตถ์-พิษณุโลก ทวงเงินจำนำข้าว 23:50 น. 11:45 น. ธกส.พิษณุโลกแต่งดำค้านรัฐบาลนำเงินจ่ายจำนำข้าว 
    15:00 น. ฮือ!ปิดถนนอุตรดิตถ์-พิษณุโลก ทวงเงินจำนำข้าว
    13:02 น. คนธ.ก.ส.พิษณุโลก แต่งดำต้านทึ้งเงินฝาก จ่ายจำนำข้าว รับคนแห่
    ถอน-ปิดบัญชีแล้ว 
    10:16 น. แตกอีก 2 ไห!กรุนางพญาวัดราชฯพบใกล้วิหารหลวงพ่อทองดำ 

    วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

    General information for travelling in Thailand.

    General information for travelling in Thailand.
    1. Best time of the year to travel.
    2. Travel route. Where to go?
    3. Travelling alone or in (tour) group.
    4. Health matters.
    5. What about the nightlife?
    6. Traditional Thai massage & massage parlours.

    *************************************************

    1. Best time of the year to travel.
    The best months to travel through Thailand are December and January. Second best are November and February. These months constitute the 'cold' seasons. In Bangkok temperatures are still as high as during a good West-European summer though. At night, it cools off a bit, and especially in the north of the country, it can be quite chilly, temperatures dropping below 10 degrees Celsius. In Bangkok, temperatures will rarely drop below 20 degrees Celsius, even at night.
    From roughly March till May, Thailand experiences the hot season, when temperatures can soar into the 40 degrees range. Not the best time of year to go walking about cities or countryside.
    From roughly May till October, we have the rainy season. It is quite unpredictable when it is going to rain though, and there are sometimes episodes of up to two months during this period, when there is no rain fall. Other years, rain falls more consistently almost every week. Traditionally rain falls during the late afternoon. It seldom lasts more than a few hours. Flooding of areas of Bangkok and in the provinces occurs, more at the end of the rainy season in Bangkok (the drains are more clogged by then). Temperatures tend to be high, but cool off somewhat each time it has rained.
    (back to top)
    2. Travel route. Where to go?
    Personally, I prefer the culturally inspired holidays. So I would recommend going where there is something interesting to see and schedule your itinerary around those places of interest.
    A route going up north from Bangkok to Chiangmai is rather 'classical' and a good start. Going up north from Bangkok, interesting places to visit are : Bangkok, Ayuthaya, Lopburi, Sukhothai, Sri Satchanalai, Chiang Mai. I have underlined the 'must see' places. To the west of Bangkok, Kanchanaburi may be of interest, especially to those who have still war memories. While the province may be of interest for those who have time and want to relax in a pleasant green environment, it does not warrant a great detour, if you are on a tight schedule. Close to Chiang Mai, Lamphun is worth a half-day trip. Chiang Rai should be rather optional, there is not much to be seen at the so called Golden Triangle. So again, depending on your time available, you may skip this area. Phitsanulok, in between Bangkok and Chiang Mai, can be a good base to visit Sukhothai and Sri Satchanalai. Sri Satchanalai was the sister city of Sukhothai during the Sukhothai kingdom, and has some interesting ruins, though not as extensive as the ones in Sukhothai itself. All the cities above are connected by bus routes. Day and nighttime trains go between Bangkok and Chiang Mai, go and stop in Phitsanulok, but do not go through Sukhothai.
    Apart from this route from Bangkok up north to Chiang Mai, another culturally interesting area is around Nakhon Ratchasima(Khorat). From there you can visit the interesting Khmer sites of Phimai, and Phanom Rung, on separate day trips. They are located on opposite sites from Khorat, and Phanom Rung in Buriram province takes a few hours by bus both ways. Khorat can be reached from Bangkok by train and bus. Another possibility is to go to Khorat from the Phitsanulok area. That way you would not have to go back all the way to Bangkok to go to the North Eastern provinces.

    As for beaches, I will be short. Phuket is the most fancy place and the most expensive. It is however located way in the south, and you would need a plane trip to go there. Ko Samui is now also well developed and can be reached by plane.Pattaya is close to Bangkok, but it is rather a well knows prostitution center. If you do not like that scene, you should confine your time to the hotel swimming pool. Huahin may be an alternative. It is not far to reach from Bangkok.
    (back to top)

    3. Travelling alone or in (tour) group?
    Travelling alone is the preferred way. However, conditions apply. You have to be in good health, reasonably fit, and need more time than when travelling in a tour group. It wil allow you to see things you will not see when joining a tour, and you will interact more with local people. Most tour groups will go to great lenghts to avoid overexerting people and only go to places that are easily accessible. Travelling alone consumes more time, you have to continuously look for a place to spend the night, go to bus stations, make arrangements with taxis to visit the places etc. Tour groups on the other hand, will often book hotels on the outskirts of town, so that even in the evening free hours, it is somewhat difficult to go and experience the local scene. Contacts will mainly be with hotel personnel. You will eat bland westernized Thai food, often of the 'buffet' variety.
    (back to top)
    4. Health matters.
    Health is important, to have it and to keep it. A lot of money is spent on various health preparations for a trip to 'underdeveloped' countries. I will not dwell further on what is necessary or overkill. The Center of Disease Control in Atlanta is probably as good as any to find more information on this matter. To a great extent the amount of money you spend on this matter, and the various preventive measures you take, depends on how much you tend to 'medicalize' your life. One can definitively go to far, for instance, not eating any local food for fear of an infection. The Thai kitchen is one of the best in the world, and you miss out on the experience, if you are too afraid.
    When travelling, I want to stress two issues often overlooked. First, be aware of dehydration. It is often very hot in Thailand, and taking in sufficient fluids is paramount. By fluid, I mean water. The simple rule should be, drink as much as necessary, to keep you going regularly to the bathroom. Do not drink alcoholic beverages during the daytime, and skip the cola drinks. Both are diuretics, that si they will make you pass water more than necessary and than is good for you.
    Second, be reasonably fit when travelling. If not, you will be easily tired and weary. Even when with a tour group, you will feel like staying on the bus, instead of being enthusiastic about visiting yet another site.
    There are some excellent hospitals in Bangkok and reasonably good ones in most provinces. Bumrungrad hospital in Bangkok, among others, is a good choice. As a rule, in some remote areas, the best hospital choice may be the closest military hospital.
    (back to top)
    5. What about the nightlife?
    The nightlife of Bangkok is world (in)famous. The most well known entertainment center is Patpong on Silom Road. Nowadays it is more subdued than before, and it actually quite difficult to find your way around the area, because a very busy night market occupies the street area, making it hard to orientate yourself and see where the bars actually are. Another more busy nightlife center is Nana Plaza, located on Sukhumvit Soi 4. It caters mostly to tourists. An area more frequented by local residents is Soi Cowboy on Soi 23, Sukhumvit road. Some tour groups include an evening outing to one of the bars. If you feel so, it is safe to visit the places. Prices for a drink are around 100 baht. There has been a persistent crackdown on this kind of nighttime activity over the last year or so. Nudity and shows can still be found, but more difficult than before. However, you can also enjoy the scene without entering the bars, by having a drink in one of the outside beer bars. If on your own, or in only male company, you can however expect multiple invitations for extracurricular activities. Interestingly, all the places mentioned here generally are there for tourists, local residents only, you will not see them frequented by Thais, who have there own entertainment centers.
    (back to top)
    6. Traditional Thai massage & massage parlours.
    Traditional Thai massage places are to be found all around Bangkok and in most towns around Thailand. Sessions lasts usually for two hours, and have nothing to do whatsoever with 'sex'. They are based on old ways of medicine. A well known center for traditional Thai massage is located at Wat Pho. Most people working in the massage places around town, will claim to have been trained at Wat Pho, but more likely they have learned it simply from their friends. The quality of the massage varies a lot, but generally speaking it will be a pleasant experience, especially after a lot of walking or after a good exercise in the gym. It is usefull to tell in advance about any problems you have, so the masseuse can avoid to much pressure on problem areas. If in doubt, avoid problems. It will be very pleasant if you are in good health, but have tired or sore legs from walking etc. But I would not recommend it as a cure for a bad back, or arthritic knees etc., especially since, as I mentioned, a lot of the people working there will not have a lot of medical knowledge. With these warnings, I can recommend it in general. Prices for a massage are around 300 baht for a two hour session.
    Most places nowadays will also offer oil massage. This has nothing to do with traditional Thai massage whatsoever. Thai massage consists mainly in applying pressure to various ligaments, muscles and joints. Oil massage consists mainly of rubbing oil on the skin.(more like a massage you may get in a spa in your own country) Some girls, working in the massage shops, will try to entice you to enjoy the oil massage. A reason may be that it is priced somewhat higher and is easier to apply. However, oil massage frequently ends up in the girl arousing the (male) customer, and getting a huge tip for further services provided. Prices for oil massage around 300-400 baht per one hour session. (tips for add-on's not included)
    Massage parlours are another matter. You will recognize them by big billboards around Bangkok and the main cities. Massage parlours are for sexual experiences. Customers are washed and rubbed in a bathtub, get body-to-body type of massage, with some Thai massage thrown in for good measure, then engage in further sexual activity. Prices usually around 2000-3000 baht. Lower, possibly around 1000 baht, for the smaller, seedier places.