วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

สาวนเรศวรกตัญญูดรอบเรียนดูแลแม่


พบเด็กสาว ปี 1 ม.นเรศวร ยอดกตัญญู ยอมหยุดเรียนเพื่อมาดูแลแม่ที่ป่วยหนัก เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ด้านมารดาสุดสงสารลูกที่ต้องหาเลี้ยงด้วยการรับจ้างสอนพิเศษ วอนคนใจบุญช่วยเหลือรักษาจะได้ไปทำงานหาเลี้ยงครอบครัวอีกครั้ง...



เมื่อวันที่ 16 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 109/1 บ้านหนองผักบุ้ง ม.5 ต.กลางดง อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย หลังจากรับแจ้งว่า มีเด็กสาวยอดกตัญญู ยอมหยุดเรียนในระดับชั้นอุดมศึกษา เพื่อมาคอยดูแลแม่ของตัวเองซึ่งป่วยหนัก ได้พบกับ น.ส.ณัฐธิดา หรือน้องได สุปิรัยธร อายุ 18 ปี กำลังนั่งนวดแขนขา คอยปรนนิบัติดูแลนางจรรยาภรณ์ สุปิรัยธร อายุ 48 ปี ผู้เป็นแม่ ซึ่งล้มป่วยลงอย่างกะทันหันด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ไม่สามารถลุกเดินไปไหนมาไหนได้ ต้องนอนอยู่ที่ยกพื้นใต้ถุนบ้าน มีเพียงมุ้ง ผ้าห่ม และของใช้จำเป็นเท่านั้น
น้องได เล่าว่า ครอบครัวมีทั้งหมด 4 คน คือ นายสุเมธ สุปิรัยธร อายุ 52 ปี บิดา นางจรรยาภรณ์ อายุ 48 ปี มารดา ตัวน้องได ซึ่งกำลังศึกษาระดับปริญญาตรี คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาไทย ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก และ ด.ช.ธนวัฒน์ หรือน้องโด้ สุปิรัยธร อายุ 13 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.1 โรงเรียนทุ่งเสลี่ยมชนูปถัมภ์ ก่อนหน้านี้มารดาจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัวเพียงคนเดียว เนื่องจากพ่อซึ่งมีอาชีพ ขี่ จยย.เร่ขายขนมเครปตามโรงเรียนต่างๆ มักจะดื่มเหล้าและติดการพนัน ไม่เคยสนใจหรือรับผิดชอบเรื่องทางบ้าน

น.ส.ณัฐธิดา กล่าวต่อว่า มารดาเคยไปทำงานอยู่ที่ประเทศฮ่องกงในตำแหน่งแม่บ้าน ประมาณ 2 ปี จนเมื่อหมดสัญญาในเดือนมีนาคม ก็ต้องเดินทางกลับประเทศไทย ปรากฏว่าระหว่างรอเดินเรื่องอยู่ที่กทม. เพื่อจะกลับไปทำงานอีกครั้ง เริ่มมีความผิดปกติเกิดขึ้น คือ แขนขาไม่มีแรง จนอาการหนัก ญาติที่กทม.จึงรีบพาส่ง รพ.รามาธิบดี แพทย์ตรวจวินิจฉัยแล้วระบุว่า เป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ต้องใช้เวลาในการรักษาและบำบัดเป็นระยะเวลานาน แต่ด้วยค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ประกอบกับมารดาเป็นห่วงลูกทั้งสองคนและอยากกลับมารักษาตัวที่บ้าน จึงขอให้ทาง รพ.ส่งตัวกลับมารักษาต่อตามโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ที่ รพ.พุทธชินราช จ.พิษณุโลก โดยทุกครั้งที่แพทย์นัด ตนจะต้องลาอาจารย์ที่ปรึกษา กลับมาเหมารถสองแถวรับจ้างที่บ้าน ในอ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย พามารดาไปตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และตรวจปัสสาวะ ที่รพ.ทุกครั้ง ในที่สุดจึงตัดสินใจหยุดพักการเรียนเอาไว้ก่อน ทั้งๆ ที่กำลังมองเห็นอนาคตอันสดใสอยู่ข้างหน้า เนื่องจากต้องการดูแลและอยู่ปรนนิบัติผู้ให้กำเนิด จนถึงวันนี้เกือบ 4 เดือนมาแล้ว
นางจรรยาภรณ์ ผู้เป็นมารดา นอนน้ำตาไหลอาบสองแก้ม นิ่งฟังลูกสาวเล่าด้วยความรันทด พูดถึง น.ส.ณัฐธิดา หรือน้องไดว่า สงสารลูกมากที่ต้องหยุดเรียนกลางคัน ทั้งๆ ที่เป็นเด็กเรียนดีมาตลอด ลูกเคยฝันไว้ว่าอยากเป็นครูสอนหนังสือให้กับเด็กๆ แต่ที่ทำได้ตอนนี้คือ รับจ้างไปสอนพิเศษที่โรงเรียนบ้านหนองผักบุ้งซึ่งอยู่ใกล้บ้าน โดยนายวิพนธ์ คำสน ผู้อำนวยการฯ และนางวาสนา กันธะชมภู ครูที่เคยสอนน้องไดมา เจียดเงินส่วนตัวมาให้เป็นค่าจ้างสอนพิเศษ เดือนละ 1,000 บาท เพื่อให้ครอบครัวของตนมีรายได้เพิ่มเติม ซึ่งก็ไม่พอค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เพราะตอนนี้ทรัพย์สินรวมทั้งทองรูปพรรณ ที่เคยสะสมเอาไว้ก็ขายเพื่อนำเงินมารักษาตัว และเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านหมดแล้ว

สำหรับตนสิ่งที่อยากได้มากที่สุดคือ อยากหายจากโรคร้ายนี้ เพื่อที่จะได้ทำงานหาเงิน มาส่งเสียลูกทั้ง 2 คน ให้ได้รับการศึกษาขั้นสูงสุด แต่ก็จนปัญญา จึงอยากวิงวอนขอความเมตตาจากผู้ใจบุญ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเหลือครอบครัวของตนด้วย โดยสามารถบริจาคได้ที่ บัญชีสะสมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด สาขาทุ่งเสลี่ยม เลขที่ 460-0-36615-9 ชื่อบัญชี นางจรรยาภรณ์ สุปิรัยธร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น