1. ปรุงแต่งภายนอก
1.1 การแต่งกาย
ไม่มีใครเลือกเกิดเป็นผู้หญิงสวยได้ ถ้าเลือกได้เราคงไม่เห็นใครจมูกแบน ปากหนา ตาหยี ฯลฯ แต่อวัยวะภายนอกทุกส่วนที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด และอาจเป็นสิ่งที่เราเกลียดจนไม่อยากมองดูนั้น อาจทำให้แลดูดีขึ้นได้ไม่มากก็น้อยโดยการรู้จักแต่งตัว เช่น คนจมูกแบนไม่ควรหวีผมแสกกลาง คอสั้นไม่ควรสวมเสื้อคอตั้ง คนอ้วนไม่ควรสวมเสื้อดอกใหญ่เลอะเทอะ หรือมีลวดลายทางขวางของลำตัว คนเอวใหญ่ไม่ควรคาดเข็มขัด ฯลฯ เทคนิคการช่วยอำพรางจุดบกพร่องของรูปร่างหน้าตาเหล่านี้ได้ มีผู้เขียนไว้ในนิตยสารสำหรับผู้หญิงเสมอๆ จนไม่จำเป็นต้องนำมากล่าวซ้ำ เพียงแต่ขอสนับสนุนให้ปฏิบัติเท่านั้น
1.2 ความสะอาด
แม้ใบหน้าจะสวยราวนางงามโลก สวมเสื้อฝีมือปิแอร์บัลแมง ถือกระเป๋าหนังจระเข้ใบละหมื่นบาท แต่ถ้าผมสกปรก สีเล็บถลอกกระดำกระด่าง กลิ่นตัวแรง เธอหมดงามทันที เล็บสะอาดไม่ทาดูดีกว่าเล็บที่ทาไว้แล้วถลอก อาบน้ำมีกลิ่นสบู่อ่อนๆ มีเสน่ห์กว่าพรมน้ำหอมกลิ่นฉุนที่พยายามจะให้กลบกลิ่นตัว
คนเมืองร้อนต้องสระผมอย่างน้อย 2 – 3 วัน/ครั้ง ใครไม่เชื่อลองดมผมคนใกล้ชิดหลังสระเกิน 3 วันไปแล้วดูก็ได้ และคนเมืองร้อนต้องอาบน้ำอย่างน้อยวันละสองครั้ง แม้ว่าจะต้องเสียแรงงาน“สรรเสริญ” การประปาแห่งประเทศไทยทุกเช้าเย็นก็ต้องยอม
รองเท้าก็เป็นสิ่งบั่นทอนความงามของผู้หญิงได้อย่างชะงัด รองเท้าสกปรก ส้นสึก สายเยิน สามารถทำให้ผู้หญิงหมดสวยได้อย่างง่ายดาย เมื่อผู้เขียนยังเด็กครูเคยสอนว่า เราจะรู้จักคนได้ดีขึ้นถ้าได้เห็นรองเท้ากับห้องส้วมของเขา
1.3 เครื่องสำอาง
หญิงสาววัยรุ่นมีความสมบูรณ์เปล่งปลั่งของร่างกายเต็มที่ จึงมีความงามตามธรรมชาติ ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำอาง ถ้าจะใช้ก็ควรใช้น้อยที่สุด และบางที่สุด มิฉะนั้นจะดูเป็นไก่แก่แม่ปลาช่อนไม่น่ารัก ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องสำอางราคาแพง แต่จะต้องเป็นชนิดที่ไว้ใจได้ว่าจะไม่ทำให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังและใบหน้า อาจทดลองทาที่ผิวหนังส่วนอื่นก่อน เช่น ทาที่แขนทิ้งค้างไว้หนึ่งคืน ถ้าไม่มีปฏิกิริยาอย่างใดก็หมายความว่าใช้ทาบนใบหน้าได้
เจ เบ็ดฟอร์ด เชสเมียร์ แพทย์โรคผิวหนังชาวอเมริกาได้เขียนแนะนำไว้ในหนังสือเล่มล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 1975 ว่า สิ่งสำคัญที่สุดในการรักษาผิวพรรณคือ ความสะอาดและความชุ่มชื้นของผิวหนัง เขาแนะนำให้ถนอมผิวโดยใช้สบู่ชนิดไม่มีสีและไม่มีกลิ่น ซึ่งมักได้แก่พวกสบู่เด็กอ่อน ผู้หญิงควรใช้ครีมป้องกันการเสียความชุ่มชื้น (moisturizing cream) ทาเป็นประจำหลังอาบน้ำ และเขากล่าวว่า นอกจากเวลาเช้ากับเวลาเย็นแล้ว แสงแดดเป็นศัตรูต่อผิวของผู้หญิงทุกคนในโลกนี้
1.4 เสื้อผ้า
เสื้อสวยที่สุดในร้านอาจแลดูทุเรศที่สุดถ้าผู้สวมไม่เหมาะสม ในทำนองเดียวกันผู้หญิงสวยที่สุดอาจแลดูทุเรศที่สุดถ้าสวมเสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสม
ข้อเสนอแนะมากมายในการแต่งกายนั้นที่จริงแล้วสามารถสรุปได้โดยใช้ถ้อยคำเพียงประโยคเดียวเท่านั้นคือ “สวมเสื้อผ้าซึ่งแสดงรสนิยมให้เหมาะสมกับรูปร่าง เศรษฐกิจและกาละเทศะ”
การตัดเย็บที่ประณีตสำคัญกว่าราคาของเนื้อผ้า เพราะฉะนั้นแม้ไม่รวยก็สวยได้ สมัยนี้ค่านิยมเปลี่ยนไป เสื้อสำเร็จรูปได้รับคามนิยมกว้างขวางขึ้น ข้อดีคือผู้ซื้อมีโอกาสได้ลองสวมดูก่อน แต่ข้อเสียคือ บางแห่งฝีมือไม่ประณีต นอกจากนั้นเสื้อสำเร็จรูปมักเดินนำหน้าแฟชั่น ทำให้ล้าสมัยเร็วกว่าเสื้อแบบเรียบธรรมดา
ถ้าอยากประหยัดก็สวมเสื้อกระโปรงครึ่งท่อนซึ่งมีสีสลับชุดกันได้ มี 2 ชุด จะเหมือนมี 4 ชุด ยิ่งถ้าใช้ผ้าพันคอ เข็มขัด เข็ดกลัดช่วยด้วย ก็จะช่วยให้แลดูเหมือนมีหลายๆ ชุดทีเดียว เช่น เสื้อสีฟ้าตัวเดียวเข้าได้กับกระโปรงสีดำ สีขาว สีเทา สีน้ำตาล หรือชุดสีเขียวเข้มเปลี่ยนผ้าพันคอเป็นสีทอง สีแสด สีแดงดอกเขียว ฯลฯ ก็ดูแปลกตาเหมือนมีหลายชุด ผ้าพันคออาจทำเองโดยใช้ผ้าสวยๆ เย็บริมเล็กเป็นแถบยาวก็ได้
เสื้อสูทควรใช้สีน้ำตาล สีเนื้อ สีเทา สีขาว สีดำ มากกว่าจะใช้สีเขียว สีแดง สีเหลือง เพราะสามารถเข้ากับเสื้อเดี่ยวครึ่งท่อนได้หลากสี เสื้อราคาถูกบางตัว เมื่อใช้ลูกไม้หรือกระดุมที่เหมาะสมตกแต่ง จะดูมีราคาและดูสวยงามยิ่งขึ้น เสื้อผ้าที่สวมใส่แล้วมีรอยยับง่ายจะทำให้ดูไม่มีราคา และไม่น่าดู แม้จะเป็นผ้าราคาแพง จึงไม่เหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องซักรีดเอง และไม่เหมาะแก่การนำติดตัวไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ
การแต่งกายมีหลักอยู่ว่า เสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋าถือ รองเท้าและเข็มขัด กล่าวคือทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บนร่างกายของคนคนนั้น จะต้องมีสีรวมกันทั้งหมดไม่เกิน 3 สี และจะต้องเป็นสีที่เข้ากันได้ ไม่ใช่สวมประโปรงแดงเสื้อชมพูเป็นอันขาด
ผู้หญิงไทยหลายๆ คนไม่ยอมสวมเสื้อซ้ำบ่อยๆ โดยเฉพาะชุดสวมไปงานเลี้ยง แท้จริง คนซึ่งจิตใจเจริญเติบโตเป็นผู้ใหญ่ มีความกล้า และมีความเชื่อมั่นในตนเองจะไม่ทุกข์ร้อนกับการสวมเสื้อผ้าซ้ำ แต่คนหลงตัวเองเหมือนทารก คนสุรุ่ยสุร่าย คนขลาด คนขาดความเชื่อมั่นในตนเอง คนมีปมด้อยต้องหาทางชดเชยด้วยการแต่งตัว คนไม่มีอะไรดีเด่นเลยมีอยู่อย่างเดียว มีเงินซื้อเสื้อผ้า ฯลฯ คนเหล่านี้ต่างหากที่ไม่กล้าสวมเสื้อผ้าซ้ำๆ
อย่างไรก็ตาม การแต่งกายแสดงรสนิยมดีและเหมาะสมกับฐานะ วัย และโอกาส ย่อมทำให้ผู้นั้นสบายใจและมีความมุ่งมั่นที่จะติดต่อกับผู้อื่น การแต่งกายจึงมีความสำคัญและมีอิทธิพลทางอ้อมต่อจิตใจ
1.5 เครื่องตกแต่ง
ไม่ว่าผ้าพันคอ เข็มขัด เข็มกลัด หรือเครื่องประดับ เช่น สร้อย แหวน ฯลฯ ถ้ารู้จักใช้ให้เข้ากันจะช่วยเสริมบุคลิกภาพภายนอกได้ แต่ถ้าใช้มากชิ้นเกินไป เช่น สวมแหวนทั้งสองมือ สร้อยคอ สร้อยข้อมือ นาฬิกา ต่างหู แถมติดเข็มกลัดแพรวพราว สวมแว่นตากรอบวาว นอกจากจะรกนัยน์ตาคนดูแล้ว ยังบ่งถึงรสนิยมของผู้แต่งอีกด้วย
แว่นตาก็เป็นเครื่องตกแต่งอวัยวะภายนอกที่มีอิทธิพลพอใช้ แว่นตาต่างแบบกันสามารถทำให้ผู้สวมคนเดียวกันและดูเป็นปราชญ์ภูมิฐาน หรือ แลดูทึ่มและเชยเพียงใดก็ได้ และถ้าวิ่งตามสมัยนิยมจนลืมส่องกระจกดูหน้าตาตนเองแล้ว แว่นตาก็อาจเป็นเครื่องบั่นทอนความงามที่ให้ผลทันตาเห็นทีเดียว
2. รักษาสุขภาพ ระหว่างผู้หญิงผอมซีด ผมแห้งกรอบ แววตาแห้งแล้งอมทุกข์ ท่าทางอิดโรยเหนื่อยหน่าย กับผู้หญิงผิวมีเลือดฝาด เส้นผมสลวยเป็นมัน แววตาแจ่มใส ท่าทางดูร่าเริงมีชีวิตชีวา ใครเป็นคนงาม? ผู้เขียนคงไม่ต้องตอบ ฉะนั้น ผู้หญิงจึงต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรงและแลดูสดชื่นอยู่เสมอ สิ่งซึ่งมีอิทธิพลต่อสุขภาพมี 4 ประการ คือ:
2.1 อาหาร อาหารจานละ 50 บาทบางชนิดอาจมีคุณค่าต่อสุขภาพต่ำกว่าอาหารอีกจานหนึ่งซึ่งมีราคาเพียง 10 บาทก็ได้ อาหารที่มีคุณค่าต่อสุขภาพคือ อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและมีส่วนสัดเหมาะสม ผักสด ผลไม้สด และเนื้อสัตว์ มีค่ามากต่อความงามและสุขภาพ แต่อาหารประเภทไขมัน แป้ง และน้ำตาล ซึ่งรวมทั้งขนมหวานทุกชนิด ไอศรีม ช็อกโกแล็ต ขนมเค้ก คุ้กกี้ และน้ำอัดลม เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับความงามอย่างชนิดไม่มีทางให้อภัยได้เลย แต่น่าประหลาดที่ของกินประเภทนี้ก็ยังขายดีจนเจ้าของร้านเป็นเศรษฐีไปหลายคนแล้ว จงหมั่นเตือนสติตนเองไว้เสมอว่า ขนมคุ้กกี้หนึ่งชิ้นจะทำให้อ้วนขึ้นคิดเป็น 40 แคลอรี่ ถ้าบริโภควันละ 10 ชิ้น จะอ้วนขึ้นเท่าไร
2.2 การออกกำลังกาย
คนเป็นจำนวนมากอ้วนหรือผอมเกินไป หรือไม่แข็งแรงเท่าที่ควรเพราะไม่ออกกำลังกาย เกือบทุกคนอ้างว่าไม่มีเวลา แท้จริงการออกกำลังกายไม่จำเป็นต้องใช้เวลามากนัก แต่ต้องทำสม่ำเสมอ คนไม่อยากอ้วนอย่าใช้ลิฟท์ขาลงเป็นอันขาด เดินลงมาทั้งห้าชั้นนั่นแหละ ควรจอดรถไว้ให้ห่างไกลห้องทำงาน จะได้ออกกำลังเดินเสียบ้าง จะหยิบของอะไรก็เดินไปหยิบเอาเอง อย่าเรียกหาคนรับใช้หรือวานลูกหลานไปหยิบให้เสียร่ำไป มิฉะนั้น เมื่อเลยวัยกลางคนจะกลายเป็นไหกระเทียมเดินได้
2.3 การนอนและการพักผ่อน
คนนอนไม่พอหรือตรากตรำมากไม่ได้พักผ่อนพอเพียงจะแลดูเหี่ยวแห้ง ไม่สดใส แต่การนอนมากไปก็อาจทำให้อ้วน และแลดูหนังตาบวมได้ ได้มีการศึกษามากมายในสหรัฐอเมริกาพบว่า มนุษย์แต่ละคนต้องการเวลานอนแตกต่างกัน โดยทั่วไปเด็กต้องการเวลานอนมากกว่าผู้ใหญ่ แต่ผู้ใหญ่ซึ่งอยู่ในวัยเดียวกันร่างกายก็อาจต้องการเวลานอนไม่เท่ากัน บางคนนอนเพียงคืนละ 6 ชั่วโมงก็พอ แต่บางคนถ้านอนน้อยกว่าวันละ 8 ชั่วโมงจะอ่อนเพลีย หงุดหงิด เพราะฉะนั้น ต้องสังเกตความต้องการเวลานอนของตนเอาเอง เราจะทราบได้ว่านอนไม่พอ เมื่อเรามีอาการง่วงซึม อ่อนเพลีย หงุดหงิด ผิวพรรณและดวงตาไม่สดใส ท้องผูก ฯลฯ
2.4 อารมณ์และจิตใจ
ผู้หญิงที่วิตกกังวล ซึมเศร้า หงุดหงิด ขี้โกรธ ขี้อิจฉา เห็นแก่ตัว ใจร้าย ใจดำ ฯลฯ ไม่เคยดูแลงามเลยสักคน นอกจากนี้อารมณ์ยังมีอิทธิพลต่อสุขภาพเกือบทุกระบบของร่างกาย เช่นทำให้ท้องผูก ท้องเดิน ปวดท้อง เป็นผื่นคัน เจ็บหน้าอก ประจำเดือนขาดหายไป ฯลฯ
3. คุณสมบัติ
ผู้หญิงสวยที่ขาดคุณสมบัติของกุลสตรีก็เหมือนรูปปั้นปูนพลาสเตอร์ เห็นครั้งแรกอาจเหลียวหลังมองซ้ำ ครั้นแล้วทุกคนก็หันหลังผละจากไป ไม่มีชายมีปัญญาคนใดคิดอยากได้ไปเป็นแม่ของลูกของเขา อย่างดีก็แค่นางบำเรอลับๆ แต่ถ้าเผอิญเขาพลาดไปจดทะเบียนด้วยแล้วเขาก็จะหาทาง “หนี” ต่อไปในภายหน้า
คุณสมบัติประกอบด้วยกิริยามารยาท วาจา ความประพฤติ ความสามารถเฉพาะตน การแสดงออกของอารมณ์และจิตใจที่ดีงาม ซึ่งรวมทั้งการปรุงแต่งภายนอกที่เหมาะสม ซึ่งทั้งหมดนี้ หามีใครมีติดตัวมาแต่กำเนิดไม่ ทุกคนสามารถแสวงหามาใส่ตัวได้ทั้งสิ้น ผู้หญิงงามในสายตาของคนมีปัญญาคือ ผู้หญิงที่รู้จักปรุงแต่งรูปโฉมภายนอกได้เหมาะสม อารมณ์ดี สีหน้าแจ่มใส อ่อนโยน และเมตตา รักเพื่อนมนุษย์ มองโลกในแง่ดี ให้อภัย ยกย่อง เข้าใจ และเห็นใจผู้อื่น และพร้อมที่จะช่วยเหลือเขา มีความรับผิดชอบ มีระเบียบวินัย รู้จักกาละเทศะ ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี วาจาไพเราะและไม่พูดมาก มีความสำรวมและเคารพในความเป็นหญิงของตน แม้ไม่ฉลาดมาแต่กำเนิด ก็รู้จักขวนขวายใฝ่แสวงหาความรู้ เป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับ อีกทั้งรู้จักหน้าที่ของตนที่มีต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ฯลฯ
ผู้หญิงทุกคนจึงสามารถเป็นสตรีที่งามได้แม้จะไม่สวย แต่ผู้หญิงบางคนกลับเลือกเป็นผู้หญิงสวยแต่ไม่งาม เธอจึงเป็นได้แต่เพียงรูปปั้นปูนพลาสเตอร์ราคาถูก ซึ่งคนมีปัญญาจะมองแล้วเมิน หรือถ้าแต่งงานแล้ว สามีก็จะจากไปสู่หญิงอันซึ่ง “งาม” กว่า
ในฐานะที่เกิดมาเป็นหญิง ท่านมีสิทธิเลือกจุดยืนชีวิตของสตรีเพศ คือ จะเป็นผู้หญิงที่สวยแต่ไม่งาม หรือจะเป็นผู้หญิงที่ งามแม้จะไม่สวย หรือจะเป็นผู้หญิงที่ทั้งไม่สวยและไม่งามก็ตัดสินใจเลือกเอาเองเถิด
โดย แพทย์หญิงสุพัฒนา เดชาติวงศ์ ณ อยุธยา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น