นางสาวเพลินตา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3พ.ย.ขณะกำลังออกจากบ้านพัก ปรากฏว่า นายกิตติศักดิ์ คงอาจหาญ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นน้องเขย พร้อมพวกที่เป็นลูกน้อง บังคับขึ้นรถไปเคลียเรื่องเงิน ของน้องสาว ซึ่งเป็นภรรยาของนายกิตติศักดิ์ ที่เสียชีวิตไป โดยกลุ่มนายกิตติศักดิ์จะมีการพูดจาข่มขู่ตนเองตลอดเวลาที่อุ้มตัวไปมีการนำ อาวุธปืนออกมาโชว์และมีการยิงปืนขึ้นฟ้าเพื่อข่มขู่ แล้วพาไปที่จ.กาญจนบุรี
ส่วนสาเหตุที่กลุ่มคนร้ายยอมปล่อยตัวออกมาเพราะได้พยายามพูดคุยเกลี่ย กล่อมกับนายกิตติศักดิ์ และรับปากว่าจะส่งเสียหลานชาย ซึ่งเป็นลูกชายของนายกิตติศักดิ์ เดือนละ 5,000 บาท และเรียนให้จบปริญญาตรี ส่วนเงินที่คนร้ายได้ไปก็เป็นเงินส่วนของที่หลานชายที่มีอยู่จำนวนกว่าสอง แสนบาทก็ยกให้ทั้งหมด กระทั่งกลางดึกของวันที่ 4 พ.ย.นายกิตติศักดิ์ ได้ยอมปล่อยตัว กระทั่งเมื่อมาถึง จ. พิษณุโลก จึงได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เดชชาติ วัฒนพนม ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก
พ.ต.อ.เดชชาติ เปิดเผยว่า คดีนี้ พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดพิษณุโลกเพิ่มอีก 2 หมายคือ เลขที่ 310-311/2555 ลงวันที่ 6 คือนายสมโภชน์ หมดทุกข์ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 91 หมู่ 8 ต.ดอนแสลบ อ.ห้วยกระเจ้า จ.กาญจนบุรี และนายชูเกียรติ บุญอยู่ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 ถนนนาสร้าง ซอยกำนันพัน ต.นครปฐม อ.เมือง จ.นครปฐม ในข้อหา ร่วมกันกักขังผู้อื่น ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่นโดยมีอาวุธปืนร่วมกันทำให้เกิดความกลัว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น