เรืองไกรยื่นกกต.บี้ปชป.ใส่ร้าย
สุขุมพันธุ์ ชี้(กู) ไม่เกี่ยว สาดโคลน ใส่คู่แข่ง โยนปชป.
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ให้สัมภาษณ์ถึงคนในพรรคประชาธิปัตย์ระบุพล.ต.อ.พงศ์พัศมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อสร้างโรงพักฉาวว่า เป็นเรื่องของคนในพรรค ส่วนตนจะเดินหน้าหาเสียงอย่างเป็นมิตรและสร้างสรรค์ เพราะอยากให้คนกทม.เห็นแต่สิ่งดีๆ ส่วนที่มีผู้โพสต์ภาพและเสียงที่ตนปราศรัยด้วยถ้อยคำรุนแรงนั้น ก็แล้วแต่จะตัดสินใจ ยอมรับในโซเชี่ยลมีเดียมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ซึ่งตนถูกให้ร้ายและถูกชื่นชมเช่นกัน อยากให้ทุกคนก้าวข้ามและยอมรับโซเชี่ยลมีเดียด้วย
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว. สรรหา ได้มายื่นหนังสือถึงนายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธานกกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง และพล.ต.ท.ทวีศักดิ์ ตู้จินดา ประธานกกต.กทม. ขอให้ตรวจสอบการกระทำของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนาย ศิริโชค โสภา ในฐานะส.ส. ฐานกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 57 พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 หรือไม่ ตามที่สื่อมวลชนนำเสนอว่า นายศิริโชคโพสต์ภาพผ่านเฟซบุ๊กในลักษณะใส่ร้ายผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. พรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการเผาบ้านเผาเมือง ว่าเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ดังกล่าวตามมาตรา 57 (5) ที่มีเนื้อหา หลอกลวง บังคับ ขู่เข็ญ ใช้อิทธิพลคุกคาม ใส่ร้าย หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัครใด หรือไม่ รวมถึงนายอภิสิทธิ์ ที่ปราศรัยว่า อภิสิทธิ์เบอร์อะไร (16) ประชาธิปัตย์เบอร์อะไร... (16) ทั้งที่นายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่ผู้สมัครตามความหมายในมาตรา 4
นายเรืองไกรกล่าวว่า นอกจากนี้ยังขอให้ตรวจสอบกรณีนายเสรี วงษ์มณฑา นักวิชา การด้านนิเทศศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซ บุ๊กว่า ใครก็ตามที่ไม่ต้องการให้เพื่อไทยยึดครองกรุงเทพฯ ปราการด่านสุดท้ายที่เหลืออยู่ เราต้องถามตัวเองว่าจะลงคะแนนให้ใครที่จะทำให้พงศพัศ ไม่ได้เป็นผู้ว่าฯ คำตอบก็คือคุณชายสุขุมพันธ์หมายเลข 16 ซึ่งอาจเข้าข่ายถือเป็นผู้ที่กระทำการใส่ร้าย หรือจูงใจให้เข้า ใจผิดในเรื่องใดอันเกี่ยวกับผู้สมัครใดอันความผิดตามมาตรา 57 (5) หรือไม่ ขอย้ำว่า การยื่นเรื่องให้ตรวจสอบครั้งนี้ ไม่ได้เลือกปฏิบัติเจาะจงเอาผิดกับผู้สมัครรายใดหรือพรรคใด แต่กรณีนี้เมื่อพบว่าเข้าข่ายผิดกฎ หมายการเลือกตั้ง ตนจำเป็นต้องยื่นเรื่องให้กกต.ตรวจสอบ
นายเรืองไกรให้สัมภาษณ์ถึงกรณีประธานกกต.กทม. สงสัยใช้สิทธิ์อะไรร้องเรียน ว่า ตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นมาตรา 27 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่าหากมีผู้พบการกระทำความผิด ให้แจ้งต่อพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในการเลือกตั้งหรือเจ้าหน้าที่รักษาความ ปลอดภัยประจำที่เลือกตั้ง ประกอบมาตรา 57 วรรคหนึ่ง (5) และตนควรเป็นผู้มีส่วนได้เสีย เพราะเป็นผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ลำดับที่ 150 หน่วยเลือกตั้งที่ 34 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท และกรณีดังกล่าวมีแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4563/2544 ไว้แล้ว และพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงาน กกต.กทม. ได้ออกใบรับคำร้องคัดค้านให้แล้ว ดังนั้น ถ้าประธานกกต.กทม. เห็นว่าตนไม่ใช่ผู้พบการกระทำความผิด และเห็นว่า กกต.กทม.ไม่มีหน้าที่ดำเนินการตามที่กฎหมายบัญญัติ ขอให้ส่งเรื่องนี้ไปยังผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง คือกกต.กลางด้วย
ตอบลบ