นายสามารถ แก้วมีชัย เผย พรรคเพื่อไทยพร้อมดับเครื่องชนศาลรัฐธรรมนูญ เตรียมล่าชื่อ ส.ส.-ส.ว.ถอดถอน พร้อมแจ้งความดำเนินคดี พร้อมบอยคอต ไม่ชี้แจงคำร้องปมแก้ ม.68…
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากที่ ส.ส.และ ส.ว.ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการรับวินิจฉัยการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของ ส.ส.และ ส.ว.312 คน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ภายใน 15 วันตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด เพราะเมื่อเราไม่ยอมรับอำนาจศาล ก็ไม่จำเป็นต้องไปชี้แจง
ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับศาลรัฐธรรมนูญ ข้อหาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ กรณีรับคำร้องตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ขณะเดียวกัน ส.ส.และส.ว. ก็จะเข้าชื่อกันถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งคณะ โดยจะยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภา ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนต่อไปในเร็วๆ นี้
นายสามารถ กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องดำเนินการถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพราะต้องการรักษาหลักการแบ่งแยกอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการไว้ ไม่ใช่ต้องการเปิดศึกหรือเป็นศัตรูกับศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเราเห็นว่ารัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ระบุชัดเจนว่า รัฐสภามีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ศาลรัฐธรรมนูญกลับรับคำร้องเรื่องนี้ไว้วินิจฉัย
อีกทั้งที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำให้แก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา เมื่อเราปฏิบัติตาม ก็ยังรับคำร้องไว้ดำเนินการอีก จึงเห็นว่าการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญเป็นการก้าวก่ายอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติชัดเจน หากเราไม่ทำอะไรเลยต่อไปฝ่ายนิติบัญญัติจะไปแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่นๆไม่ได้ ก็จะถูกยื่นตีความไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด กลายเป็นว่าศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน มีใหญ่กว่าฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย
-------------------------------------------------------------------------------------------
ปธ.สภาฯชี้ ศาลรธน.ไม่มีอำนาจรับคำร้องค้านแก้ รธน.
นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากที่ ส.ส.และ ส.ว.ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันไม่ยอมรับอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการรับวินิจฉัยการยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของ ส.ส.และ ส.ว.312 คน ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องไปชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาเรื่องการกระทำผิดรัฐธรรมนูญ มาตรา 68 ภายใน 15 วันตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด เพราะเมื่อเราไม่ยอมรับอำนาจศาล ก็ไม่จำเป็นต้องไปชี้แจง
ขณะนี้ฝ่ายกฎหมายกำลังดำเนินการรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับศาลรัฐธรรมนูญ ข้อหาใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ กรณีรับคำร้องตีความการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ขณะเดียวกัน ส.ส.และส.ว. ก็จะเข้าชื่อกันถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้งคณะ โดยจะยื่นเรื่องให้ประธานวุฒิสภา ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการไต่สวนต่อไปในเร็วๆ นี้
นายสามารถ กล่าวว่า เหตุผลที่ต้องดำเนินการถอดถอนตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ เพราะต้องการรักษาหลักการแบ่งแยกอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการไว้ ไม่ใช่ต้องการเปิดศึกหรือเป็นศัตรูกับศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเราเห็นว่ารัฐธรรมนูญ มาตรา 291 ระบุชัดเจนว่า รัฐสภามีอำนาจแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ศาลรัฐธรรมนูญกลับรับคำร้องเรื่องนี้ไว้วินิจฉัย
อีกทั้งที่ผ่านมา ศาลรัฐธรรมนูญแนะนำให้แก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา เมื่อเราปฏิบัติตาม ก็ยังรับคำร้องไว้ดำเนินการอีก จึงเห็นว่าการกระทำของศาลรัฐธรรมนูญเป็นการก้าวก่ายอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติชัดเจน หากเราไม่ทำอะไรเลยต่อไปฝ่ายนิติบัญญัติจะไปแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายอื่นๆไม่ได้ ก็จะถูกยื่นตีความไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุด กลายเป็นว่าศาลรัฐธรรมนูญ 9 คน มีใหญ่กว่าฝ่ายนิติบัญญัติที่เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย
-------------------------------------------------------------------------------------------
ปธ.สภาฯชี้ ศาลรธน.ไม่มีอำนาจรับคำร้องค้านแก้ รธน.
นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ชี้ศาล รธน. ไม่มีอำนาจรับคำร้องคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้พิจารณา...
วันนี้ (19 เม.ย. 56) ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ว่า การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่า จนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง แต่ได้สั่งการให้คณะกรรมการฝ่ายกฎหมายสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอยู่
ส่วนกรณีที่วิปรัฐสภา มีมติคัดค้านอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ที่รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณานั้น ยังไม่ขอแสดงความเห็น ขอให้เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายที่จะพิจารณา หากศึกษาและสรุปเรื่องส่งมาให้ตนก็จะนำมาประกอบการพิจารณา
เมื่อถามว่ามองประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องไว้พิจารณาว่าอย่างไร นายสมศักดิ์ ตอบว่า ส่วนตัวมองว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจที่จะรับคำร้องไว้พิจารณา แต่ทิศทางการดำเนินการต่อไป คงต้องรอให้ฝ่ายกฎหมายได้ข้อยุติก่อน เบื้องต้นเชื่อว่าระหว่างวันที่ 29-30 เม.ย. น่าจะได้ข้อสรุปออกมาบ้างแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของวุฒิสภา ได้มีการยกร่างคำชี้แจงเกือบเสร็จสิ้นแล้ว และให้ ส.ว.ที่ร่วมเข้าชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา มาลงชื่อในท้ายร่างแก้ไข เพื่อส่งคำชี้แจงเป็นคณะต่อไป.
วันนี้ (19 เม.ย. 56) ที่รัฐสภา นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญ ตามคำร้องของนายสมชาย แสวงการ ส.ว.สรรหา ว่า การเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ว่า จนถึงตอนนี้ ยังไม่ได้รับสำเนาคำร้อง แต่ได้สั่งการให้คณะกรรมการฝ่ายกฎหมายสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาอยู่
ส่วนกรณีที่วิปรัฐสภา มีมติคัดค้านอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ที่รับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณานั้น ยังไม่ขอแสดงความเห็น ขอให้เป็นเรื่องของฝ่ายกฎหมายที่จะพิจารณา หากศึกษาและสรุปเรื่องส่งมาให้ตนก็จะนำมาประกอบการพิจารณา
เมื่อถามว่ามองประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้องไว้พิจารณาว่าอย่างไร นายสมศักดิ์ ตอบว่า ส่วนตัวมองว่าศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจที่จะรับคำร้องไว้พิจารณา แต่ทิศทางการดำเนินการต่อไป คงต้องรอให้ฝ่ายกฎหมายได้ข้อยุติก่อน เบื้องต้นเชื่อว่าระหว่างวันที่ 29-30 เม.ย. น่าจะได้ข้อสรุปออกมาบ้างแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในส่วนของวุฒิสภา ได้มีการยกร่างคำชี้แจงเกือบเสร็จสิ้นแล้ว และให้ ส.ว.ที่ร่วมเข้าชื่อเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา มาลงชื่อในท้ายร่างแก้ไข เพื่อส่งคำชี้แจงเป็นคณะต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น