วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2557

คำสั่ง(ก่อน)เสีย2กุมภาฯ?'สมพงษ์'ท้าโหวตคว่ำ'ชินวัตร'

คำสั่ง(ก่อน)เสีย 2 กุมภาฯ? 'สมพงษ์'ท้าโหวตคว่ำ'ชินวัตร' : โดย...หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ / บุษราคัม ศิลปลาวัลย์

                      แม้ “คนบนท้องถนน”เชื่อว่าการเลือกตั้งไม่ใช่ทางออกจากวิกฤติความขัดแย้ง แต่ “คนในพรรคเพื่อไทย” ยังคิดว่า นั่นคือคำตอบแรกที่จะนำไปสู่การแก้โจทย์ใหญ่ว่าด้วยการปฏิรูปประเทศไทย 
                     แม้ “พรรคประชาธิปัตย์”งดปรากฏกายในสนามเลือกตั้ง แต่คำสั่งจาก “วอร์รูมเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย”ชัดเจนว่า ทั้งโปสเตอร์-รถแห่-แผนเคาะประตูบ้านพบปะมวลชนต้องดำเนินต่อไปท่ามกลางภาวะไม่ปกติที่เกิดขึ้น ทั้งการประกอบพิธีกรรมประชาธิปไตยภายใต้การประกาศใช้พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน การชวนเชิญประชาชนเข้าคูหาทั้งที่รู้ว่าไม่สามารถเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ 
                     แม้กระทั่งพรรคเพื่อไทยก็มีส่วนสร้างความพิกลขึ้นกับกระบวนการเลือกตั้งที่ก่อรูปอย่างพิการ ด้วยเหตุผลหลีกเลี่ยงเหตุปะทะกับ “มวลมหาประชาชน”ผู้ประกาศโค่นล้ม“ระบอบทักษิณ”จึงไม่มีนโยบาย “ทักษิณคิด” ส่งมาให้ “เพื่อไทยทำ” ไม่มีการประกาศชื่อคนที่จะถูกชูขึ้นเป็น “นายกฯ คนที่ 29”อย่างเป็นทางการ 
                     ก่อนปัญหาว่าด้วยอำนาจในการเลื่อน-ไม่เลื่อนวันเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ จะถูกชี้ขาดโดยศาลรัฐธรรมนูญ “สมพงษ์ อมรวิวัฒน์” ผู้อำนวยการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย นั่งสนทนากับ “เครือเนชั่น” ข้าง “วอร์รูมเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย” บางแผนอาจต้องปรับ บางแผนถึงขั้นล้มพับไปตามแต่สถานการณ์ที่รัฐบาลไม่อาจเป็นผู้กำหนดเกม

 
มั่นใจมาโดยตลอดว่า วันที่ 2 กุมภาพันธ์ จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น
                      ในฐานะผู้อำนวยการเลือกตั้งได้สั่งผู้สมัครทุกคนต้องเตรียมการเลือกตั้งเหมือนกับว่าเราจะมีการเลือกตั้ง ส่วนจะมีหรือไม่มี มันอยู่นอกเหนือจากความรับผิดชอบของเราแล้ว แต่ในเรื่องนโยบายหาเสียงไม่มีความจำเป็นต้องเน้นมากนัก แต่ได้ให้กรอบไปสั้นๆ ว่ามีทั้งนโยบายเดิมที่ต้องขัดเกลาแก้ไข อย่างเรื่องจำนำข้าวก็ต้องปรับปรุงเพราะคนเขาพูดกันทั้งเมืองว่ามีช่องโหว่ทุกจุด แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้แจงเป็นคำพูดได้ว่าจะแก้อย่างไร และมีนโยบายใหม่คือเรื่องการปฏิรูป ซึ่งวางไว้ตั้งแต่ 3-4 เดือนก่อน แต่ตอนนั้นการปฏิรูปยังลำบากเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ทุกครั้งพอเข้าไปก็เด้งออกมา ดังนั้นเราจะเชิญทุกฝ่ายมาประชุมจนตกผลึกว่า นี่คือแนวทางที่ต้องปฏิรูป
  
อะไรจะทำให้สังคมยังยอมรับการถือธงปฏิรูปของเพื่อไทย เพราะที่ผ่านมาล้มเหลวทุกรอบ ล่าสุด 25 องค์กรเอกชนก็ประกาศยุติบทบาทตัวกลาง
                      ก็มันล้มเหลวไง เราถึงเปิดโอกาสให้คนข้างนอก ใครก็ได้มาให้คำแนะนำ หรือมาฟอร์มการปฏิรูปครั้งนี้ จะทำกันอย่างไร เมื่อตกผลึกถึงประกาศว่านี่คือแนวทางที่จะปฏิรูป เสร็จแล้วรัฐบาลก็ลาออก
  
ในยุคพรรคไทยรักไทย และพรรคพลังประชาชน ทุกครั้งที่มีเลือกตั้งจะออก “นโยบายบรรทัดเดียว” คนฟังแล้วรู้เลยว่าไปโหวตเพื่ออะไร วันนี้นโยบายหาเสียงหลักของพรรคเพื่อไทยคืออะไร
  
                     ถามว่าเราจะหาทางจูงใจคนได้อย่างไร เราเป็นรัฐบาล เราไม่ได้มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้น ถ้าผิดก็ฟ้องร้องมาสิ ให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม คนไหนไม่ดีก็ตัดมันออก ไล่มันออก ไปให้ถึงโรงถึงศาลเลย มันต้องได้รับโทษ
  
อย่างแคมเปญ “ขอโอกาสพรรคเพื่อไทยเดินหน้าทำงาน สานต่อนโยบายเดิมให้สำเร็จ” คำว่า “นโยบายเดิม” ไปตอกย้ำภาพจำและคำครหาของหลายโครงการที่พบการทุจริต และถูกตัดสินโดยองค์กรอิสระแล้วหรือเปล่า
                      ก็แล้วแต่ ต่างคนต่างคิด แต่ขณะนี้เราเจอปัญหาหนักที่ว่าไม่อยากให้มีการเลือกตั้ง เราถึงชูแคมเปญว่า “2 กุมภาฯ เข้าคูหารักษาประชาธิปไตย” เพราะเราต้องการให้มันเป็นประชาธิปไตย บุคลากรที่อยู่บนท้องถนน ไปขับไล่รัฐบาลเนี่ย เขาเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า อยากให้ประชาชนได้พิจารณาโดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ ที่ไปฟัง ไปบุกสถานที่ราชการ ไปทำลายทรัพย์สินของทางราชการ อันนี้มันประชาธิปไตยหรือเปล่า ถ้าจะอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยเพราะมีมวลมหาประชาชน แล้วมวลมหาๆๆ มวลชนอีก 65 กว่าล้านคนล่ะเป็นอะไร หรือจะบอกว่าคนกรุงเทพฯ 3 แสนคนดีกว่าคนชนบทที่เหลือ มันจะได้อย่างไร
  
หากได้เลือกตั้งกันจริงๆ ผลการเลือกตั้งที่ออกมาจะเป็นผลหรือไม่ และใช้ตัดสินอะไรได้บ้าง
                      แน่นอน ต้องมีผล เพราะโดยกฎหมาย เมื่อมีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ยุบสภาและกำหนดวันเลือกตั้งใหม่แล้ว เป็นหน้าที่ของกกต. (คณะกรรมการการเลือกตั้ง) ต้องทำให้การเลือกตั้งเป็นผลสำเร็จ ที่ผ่านมามี 28 เขตมีปัญหาด้วยคนที่ไม่เห็นด้วย ถ้ามันไม่ครบ ได้เท่าไรก็เอาเท่านั้น ท่านก็ไปซ่อมเอาเองสิ มันเปิดสภาไม่ได้อยู่ดี ความจริงมันต้องแก้ไขตั้งแต่ต้น แต่นี่ท่านก็นิ่ง ก็ปล่อยมา ผมยืนยันได้ว่าคนที่ออกไปใช้สิทธิเนี่ย เป็นเสียงของมหาๆๆๆๆ ประชาชน
 พรรคเพื่อไทยจะเคลมหรือไม่ว่าทุกเสียงโหวตให้คือเสียงสนับสนุนการคงอยู่ของ “ระบอบทักษิณ” 
  
                     ถ้าพูดอย่างนั้นมันไม่ค่อยถูกนะ วันนี้องค์กรคือพรรค พรรคเพื่อไทยถือเป็นสายที่ 3 แล้ว เป็นผลพวงจากไทยรักไทยและพลังประชาชน คนเขาก็รับทราบนโยบายที่เราทำมาที่จับต้องได้ พรรคอื่นๆ ทำไมไม่คิดล่ะ ทำไมไม่อยากเลือกตั้งล่ะ เพราะเลือกทีไรแพ้ทุกทีใช่ไหม ถึงไปคิดเอาระบบอื่นเข้ามา 
  
ท่านเคยบอกว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถอนไปจากพรรคเพื่อไทยนานแล้ว ถอนไปตั้งแต่ตอนไหนด้วยเหตุใด
                      ก็ตั้งแต่รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามา ในตอนต้นท่านคงให้คำแนะนำบ้าง จึงมีนโยบายอะไรต่างๆ ช่วงก่อนและหลังการเลือกตั้งเล็กน้อย แต่คุณยิ่งลักษณ์ก็เป็นคนมีอัจฉริยะ ดูแลและปรับอะไรต่างๆ ได้ดีเลย ส่วนความเกี่ยวข้องของท่านทักษิณเนี่ย ผมเชื่อว่ามันเบาบางลงไปแล้ว สังเกตดู ในคราวนี้เราไม่ได้ใช้แคมเปญ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ”นะ
  
แต่ก่อนคนที่โหวตเลือกขั้วนี้อาจเพราะนิยมชมชอบในตัวพ.ต.ท.ทักษิณ หรือนโยบายประชานิยม ขณะนี้คิดว่าพ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นต้นทุนที่สำคัญของพรรคหรือไม่ หรือกลายเป็นภาระที่ทำให้รัฐบาลไปต่อไม่ได้
                      ไม่ใช่ภาระเลย ผมเชื่อสิ่งที่ท่านทำตั้งแต่ยุคไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงเดี๋ยวนี้ เพียงแต่เราเกลาให้มันสามารถทำงานได้คล่องตัว.. ไอ้ความสัมพันธ์ที่มีต่อกันมันมีมานาน หากได้พบปะกันก็พูดคุยสอบถามกันเป็นธรรมดา แต่เป็นไปไม่ได้ว่า โอ้ย! ท่านทักษิณอย่าเข้ามายุ่ง สื่อมวลชนอาจมองว่าคุณยิ่งลักษณ์ต้องได้รับคำแนะนำโดยพี่ แต่จริงๆ คุณยิ่งลักษณ์เป็นตัวของตัวเองมาก ดูจากการสั่งการใน ครม.ท่านก็ทำได้ดี 
  
ถ้าเช่นนั้นทำไมข้อเสนอให้ตระกูล “ชินวัตร” ถอยห่างจากพรรคถึงมีมากขึ้นดังขึ้น แม้กระทั่งตอนจัดทำบัญชีผู้สมัครส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ก็ยังมีแกนนำพรรคเสนอสิ่งนี้กับพ.ต.ท.ทักษิณ
                     ผมว่ามันไม่น่าจะเกี่ยวกัน ท่านทักษิณไม่ได้เกี่ยวมาตั้งแต่ต้น ในช่วงการเมือง 2 ปีนี้เป็นบทบาทของคณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ผมว่าคงไม่ยุติธรรมนัก หากจะบอกให้ครอบครัวชินวัตรหายไป เพราะท่านทักษิณก็ไม่ได้อยู่เมืองไทย อันนั้นน่าจะเป็นความคิดของบุคคลที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามมากกว่า เอาอย่างนี้ดีกว่า ตอนนี้ท่านทักษิณก็อยู่ห่างๆ คุณยิ่งลักษณ์ก็เป็นปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 ของพรรค ถ้าเห็นว่ายังมีชินวัตรอยู่ ถึงเวลาเลือกตั้งก็พิจารณาให้ดีแล้วกัน ถ้าคุณไม่เอาชินวัตร คุณก็ไม่ต้องลงคะแนนปาร์ตี้ลิสต์ให้เรา ส่วนส.ส.ก็พิจารณาเอาเองว่าเขาเป็นใคร เราก็อยากจะรู้เหมือนกันว่า 15 ล้านคนที่เคยได้มาเนี่ยจะเป็นอย่างไร
 ลึกๆ ในใจระดับแกนนำพรรคแอบหวั่นไหวหรือไม่ เพราะขณะนี้ก็ยังไม่มีการประกาศชัดเจนว่าจะชูใครเป็นนายกฯ 
                      ในเรื่องนี้ที่เราไม่ประกาศเนี่ย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่เบอร์ 1 ต้องเป็นอยู่แล้วครับ 
  
ถึงนาทีนี้จะไม่มีนายกฯ ม้ามืด มีแต่ชื่อ “ยิ่งลักษณ์” กลับมาเป็นนายกฯ อีกสมัยใช่หรือไม่ 
                      ไม่มีล่ะ ผมคิดว่าอย่างนั้น
  
แล้วนโยบายเดิมอย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และออกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) นิรโทษกรรม จะถูกผลักดันอีกหรือไม่
                      ก็ขึ้นอยู่กับการพูดคุย ถ้าสู้กันจนตายไปข้างหนึ่งแล้วจะไปนิรโทษได้อย่างไร เขาตายไปแล้ว มันต้องคุยกัน ไอ้เรื่องการเมืองเนี่ยมันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย มันเรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกัน แต่ตอนนี้คุณสุเทพ (เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส.) ก็ยืนกระต่ายขาเดียว เราก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะตอนนี้ก็เหมือนเขาเป็นผู้กำหนด ก็อยากวิงวอนให้คนในกรุงเทพฯ ได้อ่านให้ลึกซึ้ง
  ........................
(คำสั่ง(ก่อน)เสีย 2 กุมภาฯ? 'สมพงษ์'ท้าโหวตคว่ำ'ชินวัตร' : โดย...หทัยกาญจน์ ตรีสุวรรณ / บุษราคัม ศิลปลาวัลย์)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น