'ปชป.'ไม่แปลกใจ ผลถก'ยิ่งลักษณ์-กกต.' เหตุ 'รัฐบาล' มีธงไม่เลื่อน 'ลต.' เมิน 'ความสูญเสีย-ล้มตาย' ของ 'ปชช.'
29 ม.ค.57 นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)
หารือกันถึงการเลื่อนวันเลือกตั้ง ว่า ผลที่ออกมาตนไม่แปลกใจ
เพราะเป็นที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว
เพราะรัฐบาลไม่มีแนวคิดที่จะเลื่อนการเลือกตั้งออกไป
และยืนยันเดินหน้าเลือกตั้งในวันที่ 2 ก.พ.ต่อไปไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ไม่ว่าประชาชนจะต้องสูญเสีย มีการบาดเจ็บล้มตาย
และการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นโมฆะ
และการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นจะมีสภาผู้แทนราษฎรที่สมบูรณ์หรือไม่
อาจต้องใช้เวลามากกว่า 6 เดือน ซึ่งเงื่อนไขเหล่านี้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการตัดสินใจ
ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการเดินหน้าไปสู่วันเลือกตั้ง
"ขณะนี้ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยชัดเจนว่า
นอกจากการกระชับอำนาจตัวเองผ่านการเลือกตั้ง วันที่ 2
ก.พ.ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ที่น.ส.ยิ่งลักษณ์จะต้องเดินไปให้ถึง
และยุทธศาสตร์ที่สำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การใช้กำลังข่มขู่
คุกคามประชาชนที่เห็นต่าง ตนยืนยันว่า
ขณะนี้มียุทธศาสตร์ที่จะทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวกับประเทศไทยและกทม.
โดยขณะนี้มีกองกำลังที่ทราบฝ่ายว่าเป็นฝ่ายเดียวกับรัฐบาลออกปฏิบัติการอยู่ทั่วพื้นที่กทม."
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า
วันนี้ถ้ามวลชนเดินทางออกนอกพื้นที่การชุมนุมจะถูกกองกำลังทราบฝ่ายเหล่านี้ติดตาม
และเมื่อมีโอกาสก็จะลงมือลั่นไก เพื่อสังหารประชาชนทันที ทั้งนี้
จากเหตุการณ์ที่ยิงนายสุทิน ธราทิน แกนนำกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.)นั้น
ไม่น่าเชื่อว่า จะมีคนร้ายเดินถือปืนอย่างองอาจวิ่งไล่รถนายสุทิน
และสาดกระสุนใส่รถนายสุทินกลางวันแสกๆ ซึ่งคนร้ายสามารถหลบหนีไปได้อย่างง่ายดาย
กรณีนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีการรู้เห็นเป็นใจ ของผู้ที่บังคับใช้กฎหมาย
โดยเฉพาะผู้ที่มีอำนาจ คือ รัฐบาล
"ขณะนี้ รัฐบาลจงใจให้กองกำลังซึ่งทราบฝ่ายว่า
เป็นฝ่ายเดียวกับรัฐบาลออกปฏิบัติการทั่วทุกพื้นที่ที่มีการชุมนุมของกลุ่มต่อต้านรัฐบาล
เพื่อข่มขู่ไม่ให้ประชาชนออกมาขัดขวางการเลือกตั้งในวันที่ 2
ก.พ.เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ที่จงใจสร้างความหวาดกลัวให้ประชาชน
เมื่อออกมานอกพื้นที่ต้องเจอกับการไล่ล่าของกลุ่มกำลังเหล่านี้ทันที
เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หน้าสโมสรทหารบกเมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา
ประชาชนถูกยิงโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ลั่นไก" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่ออีกว่า
จากการให้ข่าวของผู้บังคับบัญชาของดาบตำรวจคนดังกล่าวว่าเป็นเพียงผู้มาหาข่าว
แต่สิ่งที่น่าสงสัยคือ โดยหลักการของการเข้ามาหาข่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องไม่พกอาวุธ
และถ้ามีการเข้ามาหาข่าวแล้วมีการพกระเบิดปิงปองเข้ามาในพื้นที่เพื่ออะไร ตนคิดว่า
กรณีนี้เป็นกรณีสำคัญที่จะต้องทำความกระจ่าง
เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้บังคับบัญชาจะปล่อยให้เหตุการณ์ผ่านไปโดยให้ประชาชนลืมเองคงจะไม่ได้
"ทั้งกรณีของนายสุทินและกรณีล่าสุดนั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่น่าจะใช้เวลาเกิน 24 ชั่วโมงในการคลี่คลาย
แต่หากปฏิบัติหน้าที่ไม่ตรงไปตรงมา และต้องการปกปิดความผิด
เพราะมีคำสั่งจากคนที่มีอำนาจในรัฐบาล ตนเชื่อว่า
เรื่องนี้จะเป็นเงื่อนไขสุดท้ายที่จะทำให้ประชาชนอดรนทนไม่ไหวและออกมาต่อสู้เพื่อล้มอำนาจรัฐ"
นายชวนนท์ กล่า
นายชวนนท์ กล่าวต่อไปว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์
กำลังจะคิดใช้ยุทธศาสตร์ความรุนแรงกับประชาชนนอกพื้นที่มีกองกำลังไล่ล่า
ส่วนในพื้นที่การชุมนุมก็ประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
และมีการจัดทีมจู่โจมเพื่อจับกุมแกนนำผู้ชุมนุม
ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.เกิดขึ้นให้ได้ ตนยอมรับว่า
การเลือกตั้งวันที่ 2 ก.พ.อาจเกิดขึ้นได้จริง แต่ผลที่น.ส.ยิ่งลักษณ์จะได้
จะไม่คุ้มกับสิ่งที่น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเสียไปทั้งชีวิต
วันนี้ไม่มีใครคิดว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์จะโหดเหี้ยมอำมหิตได้ถึงเพียงนี้
เราไม่เคยเห็นน.ส.ยิ่งลักษณ์พูดถึงความสูญเสีย
ในฝั่งของผู้ชุมนุมเลยแม้แต่ครั้งเดียว
"น.ส.ยิ่งลักษณ์พูดถึงแต่ลูกชายตัวเอง
เวลาที่ถูกเป่านกหวีดด้วยสายตาที่วิงวอน
แล้วน.ส.ยิ่งลักษณ์เห็นสายตาของลูกสาวนายสุทินหรือไม่ ที่มองศพพ่อของตัวเอง
โดยไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อถึงเสียชีวิต
น.ส.ยิ่งลักษณ์เคยเอาใจใส่เด็กผู้หญิงตัวน้อยที่ต้องเสียพ่อไป
เพียงเพราะน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องการที่จะเลือกตั้ง และขอให้ช่วยตอบด้วยว่า วันที่ 2
ก.พ.จะต้องมีเด็กกำพร้าอีกกี่คน
เพียงเพราะจะทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรี
เรื่องนี้เป็นคำถามสำคัญที่คนไทยทั้งประเทศอยากจะถามน.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่า
ความสูญเสียจะต้องเกิดขึ้นอีกเท่าไหร่ถึงจะสาสมใจ" นายชวนนท์ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อไปอีกว่า ส่วน
ศรส.ถูกตั้งขึ้นมาด้วยเหตุผลประการเดียว คือ
การติดกำลังให้เจ้าหน้าที่ของรัฐอย่างถูกกฎหมาย เพื่อทำลายประชาชน ทั้งนี้
ศูนย์อำนายการรักษาความสงบ ( ศรส.) ไม่ได้มีภารกิจในการปกป้อง
คุ้มครองดูแลความปลอดภัยให้ผู้ชุมนุมเลย และร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน
ไม่เคยพูดถึงความสูญเสียของกลุ่มคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
(กปปส.) เลย
“วันนี้น.ส.ยิ่งลักษณ์
และร.ต.อ.เฉลิมกำลังจะแบ่งประเทศไทยออกเป็น 2 ทาง ทั้งนี้
เห็นว่าไม่มีผู้ปกครองของชาติไหนมีเจตนาในการติดอาวุธ
และออกกฎหมายเพื่อประโยชน์ของตัวเองในการฆ่าฟันประชาชนและปล่อยให้มีกองกำลัง
ซึ่งอาจเป็นกองกำลังต่างชาติเข้ามาทำลายประชาชนคนไทยด้วยกันเอง
รัฐบาลยิ่งลักษณ์เป็นรัฐบาลแรกที่ประชาชนจะจดบัญชีทุกบัญชีที่
น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้ทำกับประเทศไทยเอาไว้ และถ้าคิดว่า
คุ้มที่จะเดินหน้าต่อไปก็เชิญตามสบาย แต่ทุกชีวิตที่สูญเสียไป
น.ส.ยิ่งลักษณ์และพรรคเพื่อไทยต้องรับผิดชอบ” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า วันนี้เวลา 14.00
น.ตนจะเดินทางไปยื่นหนังสือที่สำนักงานผู้แทนข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชน
แห่งสหประชาชาติ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งตั้งอยู่ที่อาคารองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
เพื่อแจ้งให้สหประชาชาติและองค์กรระดับประเทศได้รับทราบว่า ขณะนี้
เรามีรัฐบาลที่อ้างประชาธิปไตยแต่มีพฤติกรรมเป็นเผด็จการออกกฎหมาย
เพื่อคุ้มครองสถานะของตัวเองและมีพฤติกรรมจงใจละเลยให้ประชาชนถูกทำร้าย
ถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดใจกลางกรุงเทพฯ มาอย่างต่อเนื่อง
มีพฤติกรรมที่สนับสนุนให้มีกองกำลังในการซุ่มทำร้ายประชาชนคนไทยที่ออกมาใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ
"ตนไม่ได้อยากไปฟ้องต่างชาติ
แต่ไม่อยากให้องค์กรต่างประเทศเข้าใจประเทศไทยผิดว่า ประชาชนไม่เอาการเลือกตั้ง
โดยแท้จริงแล้วประชาชนที่ออกมาคัดค้านล้วนสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย
เพียงแต่คงให้มีการปฏิรูปและมีกระบวนการที่ทำให้แน่ใจว่า
เป็นคำตอบที่บริสุทธิ์ยุติธรรมสำหรับทุกฝ่าย
และทำให้แน่ใจว่าเราจะไม่มีรัฐบาลที่เอาเสียงประชาชนไปบิดเบือน
เพื่อฉกฉวยโอกาสอีกต่อไป" นายชวนนท์ กล่าว
นำ "4 คลิป" มัด "คนเสื้อแดง" เผา "เซ็นทรัลเวิล์ดปี 53" แขวะ "แม้ว"
เตรียมเงิน 10 ล้านรอหลักฐาน
นายชวนนท์
แถลงข่าวพร้อมนำคลิปเหตุการณ์เสื้อแดงเผาเซ็นทรัลเวิล์ด 4 คลิปมาเผยแพร่สื่อ
โดยกล่าวว่า ทั้งหมดเป็นหลักฐานยืนยันว่าคนเสื้อแดงคือ ผู้ที่เผาเซ็นทรัลเวิล์ด
ดังนั้น ขอให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยบอกว่า
ใครให้เบาะแสคนเผาเซ็นทรัลเวิล์ดได้จะให้เงิน 10 ล้านบาท เตรียมเงินไว้ด้วย
โดยตนพร้อมให้สำเนาคลิปนี้กับสื่อมวลชน
เพื่อไปรับเงินจำนวนดังกล่าวและคลิปดังกล่าวยืนยันได้ว่า
ทหารยังไม่ได้เข้าไปในพื้นที่ตามที่มีการกล่าวหาว่าทหารเป็นผู้เผาเซ็นทรัลเวิล์ด
เพราะในพื้นที่มีแต่ผู้ชุมนุมเสื้อแดงเท่านั้น
โดยจะนำหลักฐานนี้ไปใช้ในชั้นศาลต่อไป
“ขอเรียกร้องให้ ตำรวจ ทหาร
ออกมาปกป้องคุ้มครองดูแลประชาชน จากการลอบทำร้ายของรัฐบาลทรราช
และนักการเมืองชั่วที่หวังกลับเข้ามามีอำนาจ ซึ่งผมเชื่อว่า
หากปล่อยให้เหตุการณ์ผ่านไปจะมีความรุนแรงมากกว่า 4 ปีที่แล้ว
ในเหตุการณ์แดงเผาเมืองปี 53 จึงหวังว่า
ปีนี้จะเป็นการโค่นล้มระบอบทักษิณได้อย่างแท้จริง” โฆษกพรรคประชาธิปัตย์
กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
คลิปดังกล่าวเป็นเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงเผาเซ็นทรัลเวิล์ด 4 คลิปเมื่อวันที่
19 พ.ค.53 มา เผยแพร่ต่อสื่อมวลชน โดยคลิปแรกเป็นภาพระหว่างที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
แกนนำกำลังประกาศยุติการชุมนุม โดยมีคนเสื้อแดงตะโกนอยู่ตลอดเวลาว่า “เผาเลย”
ส่วนคลิปที่ 2 เป็นช่วงที่แกนนำยังพูดบนเวที คนเสื้อแดงเริ่มเผาเซ็นทรัลเวิล์ด
คลิปที่ 3
เป็นภาพคนเสื้อแดงเผาเซ็นทรัลเวิล์ดไฟเริ่มลุกโชนขึ้นด้านในและบุกเข้าไปด้านในของห้างท่ามกลางเสียงคล้ายระเบิดดังเป็นระยะ
และสำหรับคลิปที่ 4
เป็นภาพคนเสื้อแดงแบกถังแก๊สปาใส่เข้าไปในห้างเซ็นทรัลเวิล์ดจนเกิดเสียงระเบิด
ขณะที่ มีเสียงคล้ายปืนดังเป็นระยะอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น