วันที่ 16 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำน่าน บ้านวังกระบาก หมู่ 8 ต.ท่าทอง อ.เมือง จ.พิษณุโลก ว่า ถนนที่ก่อสร้างเลียบตลิ่งของแม่น้ำน่าน ได้ถูกกัดน้ำเซาะกัดจนทำให้ถนนขนาด 2 ช่องจราจรได้ทรุดตัวหายลงไปในแม่น้ำทั้งเส้น เป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถไม่สามารถสัญจรไปมาได้ นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนของประชาชนที่ปลูกสร้างอยู่ติดถนนสายดังกล่าว จำนวน 4 หลังคาเรือน ได้รับผลกระทบเข้า-ออกบ้านเกือบไม่ได้แล้ว เนื่องจากเหลือช่องทางให้เดิน ลัดเลาะริมรั้วบ้านประมาณ 20-30 เซนติเมตร สร้างความผวาดผวาให้กับประชาชนที่พักอาศัยอยู่ เนื่องจากเกรงว่าตลิ่งจะพังเสียหายเพิ่มขึ้นอีก จนมาถึงเขตรั้วบ้านพักและแนวเสาไฟฟ้า จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเข้ามาช่วยเหลือเป็นการด่วน
นางทองชุป คำงาม เจ้าของบ้านเลขที่ 182/5 หมู่ 8 บริเวณจุดที่เกิดเหตุ ได้กล่าวว่า ถนนสายดังกล่าวเป็นถนนเลียบริมแม่น้ำน่าน ก่อสร้างและใช้งานมาหลายปีแล้ว ต่อเมื่อเมื่อปีที่ผ่านมา
หลังจากที่แม่น้ำน่านได้เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งกระแสน้ำไหลแรงมาก และมีฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกัน กระแสน้ำได้ไหลกัดเซาะดินริมตลิ่งและใต้ถนน จนทำให้ค่อยทรุดตัว จนพังเสียหายถล่มลงไปในแม่น้ำ เป็นระยะทางยาวกว่า 200 เมตร และการทรุดตัวยังลงลุกลามเข้ามาในเขตที่ดินของตนเอง ล่าสุดเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้แนวถนนขอบสุดท้าย ได้พังลงไปด้านล่างเสียงดังสนั่น จนขณะนี้การทรุดตัวได้เข้ามาถึงบริเวณรั้วหน้าบ้านและแนวเสาไฟฟ้าแล้ว หากยังไม่มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ คาดว่าทั้งรั้วบ้านและเสาไฟฟ้า จะทรุดตัวได้รับความเสียหายอย่างแน่นอน
นางทองชุป กล่าวต่อไปอีกว่า ในขณะนี้ตนเองและเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันอีก 3-4 หลัง ต่างหวาดผวาไม่กล้าพักอาศัยที่ผ่านมาบ้าน เนื่องจากกลัวดินที่ยังทรุดตัวอย่างต่อเนื่อง จะกินพื้นที่เข้ามาถึงตัวบ้านพักอาศัย และ ยังกลัวเสาไฟฟ้าที่อยู่ชิดแนวถนน จะโค่นลงมาเป็นอันตรายได้
ทางด้าน นายขจรศักดิ์ วิตันติวงศ์ อดีต นายก อบต.ท่าทอง อ.เมืองพิษณุโลก ได้เปิดเผยว่า ถนนสายดังกล่าวอยู่ในความดูแลของ อบต.ท่าทอง เปิดใช้งานมานานหลายปี แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่สูงขึ้น ได้เซาะดินใต้ถนนจนเป็นโพรง ก่อนพังถล่มได้รับความเสียหายหลายจุด แต่ที่รุนแรงคือบริเวณ หมู่ 8 ต.ท่าทอง ถนนขนาด 2 ช่องจราจรได้หายไปทั้งเส้น และ ยังทรุดตัวจนถึงแนวเสาไฟฟ้าของหมู่บ้านแล้ว ขณะนี้ได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่โยธาและฝังเมือง ได้เข้าพื้นที่มาตรวจสอบแล้วจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และ ยังได้ประสานไปยังกองทัพภาคที่ 3 เพื่อจัดส่งทหารช่างมาไปช่วยเหลือและแก้ไขปัญหา ที่เกิดขึ้นเป็นการเบื้องต้นในฤดูน้ำหลากนี้ก่อน ส่วนการแก้ไขระยะยาวคงต้องจัดหางบประมาณ เพื่อสร้างเขื่อนกันตลิ่งพังถาวรต่อไป.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น