นิตยสารฟอร์บส์ของสหรัฐ จัดอับดับเศรษฐีใจบุญ ไทยติด 4 คน
นิตยสารฟอร์บส์ของสหรัฐ
ฟอร์บส์ (อังกฤษ:Forbes ) เป็นชื่อของนิตยสารเกี่ยวกับธุรกิจและการเงินในสหรัฐอเมริกา ก่อตั้งในปี ค.ศ. 1917 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ถนน ฟิฟท์แอฟเวนู นครนิวยอร์ก นอกจากนี้ ทางนิตยสารยังตีพิมพ์เกี่ยวกับ ลำดับเศรษฐีของโลก ลำดับของดารา และลำดับบริษัทที่น่าสนใจในสหรัฐอเมริกา เป็นต้น
นิตยสารชื่อดังของอเมริกา
ระดับเศรษฐีผู้ใจบุญมีดังนี้
|
นายบุญชัย เบญจรงคกุล
ซึ่งประเทศไทย มหาเศรษฐีผู้ใจบุญ 4 อันดับ ได้แก่ นายบุญชัย เบญจรงคกุล วัย 59 ปี เจ้าของสื่อโทรคมนาคมดีแทค ผู้อุทิศตนสนับสนุนงานด้านการศึกษาและวัฒนธรรม อย่างจริงจัง นับตั้งแต่ขายหุ้นบริษัท เมื่อปี 2548 ทั้ง เตรียมเปิดพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยในกรุงเทพฯ มูลค่า 8.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นกองทุนพิพิธภัณฑ์ภาคเอกชนใหญ่ที่สุดของประเทศ
นายตัน ภาสกรนที
นายตัน ภาสกรนที วัย 51 ปี มหาเศรษฐีนักธุรกิจผู้ก่อตั้ง บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศแบ่งผลกำไรบริษัทครึ่งหนึ่ง ตั้งมูลนิธิยกระดับการศึกษา สิ่งแวดล้อม และการท่องเที่ยว นอกเหนือจากการบริจาคเงิน 67,000 ดอลลาร์สหรัฐ สร้างอาคารใหม่โรงเรียนอนุบาลบ่อทอง ที่บ้านเกิดใน จ.ชลบุรี บริจาคเงินช่วยเหลือฟื้นฟูแผ่นดินไหวแ ละสึนามิพัดถล่มญี่ปุ่น อีก 143,000 ดอลลาร์สหรัฐ
นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ
นางพิไลพรรณ สมบัติศิริ วัย 60 ปี ประธานบริษัท โรงแรมปาร์คนายเลิศ จำกัด และประธานกองทุนไทย ช่วยเหลือปกป้องช้างป่า ทั้งเป็นผู้ดำเนินการกองทุนเลิศสิน ดูแลด้านสุขภาพและการศึกษา
นายทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์
วัย 53 ปี มหาเศรษฐี เจ้าของหุ้นบริษัท พฤกษาเรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)บริจาคเงิน 660,000 ดอลลาร์สหรัฐ เพื่อโรงพยาบาล องค์กรด้านศาสนา และสถานศึกษาตลอดช่วงปี 2553 - 2554
อานิสงส์การบริจาคทาน |
อานิสงส์ของการบริจาคทานขอให้ท่านทั้งหลายจงตั้งใจฟังการบริจาคทานของปุถุชนในโลกนั้นมีเหตุปัจจัย ที่จะทำให้ได้รับอานิสงส์มากน้อยต่างกัน
บ้างก็ได้รับผลบุญถึง 100 ชาติ 1000 ชาติต่อเนื่องกันไป
พบเห็นผู้คนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก
ในโลกียโลกนั้น หากบรรดาพระราชา มหากษัตริย์ ขุนนางอำมาตย์ ข้าราชบริพารตลอดจนสมณะชีพราหมณ์ นักบวช นักพรต และปุถุชนธรรมดาทั้งหลาย เมื่อพบเห็นผู้คนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก หูหนวกตาบอด ต้องลำบากแสนเข็ญ ด้วยเหตุนานาประการ หากบุคคลผู้นั้นไม่ว่าจะอยู่ในวรรณะใด สถานะใด มีจิตเมตตาบริจาคทาน แก่พวกเขาเหล่านั้น โดยหยิบยื่นวัตถุทานทั้งหลายให้ด้วยมือตนเอง พร้อมทั้งกล่าวคำปลอบประโลมแก่บรรดาผู้ทุกข์ยาก บุญกุศลที่ได้รับจะมากมายดั่งเมล็ดทรายในแม่น้ำคงคา
ทั้งนี้ก็เพราะ จิตเมตตาอันบริสุทธิ์ที่มีต่อผู้ซึ่งกำลังตกทุกข์ได้ยากนั้นทรงพลานุภาพยิ่งอานิสงส์แห่งการบริจาคทานด้วยจิตเมตตาอันบริสุทธิ์ จะส่งผลให้บุคคลผู้นั้นได้เกิดอยู่ในชาติตระกูลที่สูงส่งเพียบพร้อมไปด้วยพระพย์ศฤงคาร เจริญรุ่งเรือง สมบูรณ์พูนสุขอย่างหาที่เปรียบมิได้"
หากผู้ใดได้พบเห็นวัดวาอาราม ศาสนสถาน สถานปฏิบัติธรรม ซึ่งมีพระรูปขององค์พระพุทธะ พระโพธิสัตว์ประดิษฐานอยู่ แล้วมีจิตศรัทธาเข้าไปนมัสการกราบไหว้สักการะ ตลอดจนได้บำเพ็ญทาน สร้างถนนหนทางสะพาน ทะนุบำรุง สาธารณสมบัติ สร้างคัมภีร์พระสูตร หนังสือธรรมะเพื่อค้ำชูจรรโลงพระศาสนา บุคคลผู้นั้นจะได้เสวยตำแหน่งเป็นท้าวสักกะเทวราชอยู่เป็นเวลาถึง 10 กัปป์
พัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง
หากผู้ใดได้พบเห็นวัดวาอาราม ศาสนสถาน พระพุทธปฏิมา รูปเคารพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งทรุดโทรมถูกทิ้งร้าง แล้วบังเกิดจิตศรัทธาทำการบูรณะ ซ่อมแซม ปฏิสังขรณ์แล้วยังชักชวนสาธุชนมาร่วมบุญกันอย่างสมัครสมานสามัคคี ด้วยอานิสงส์จากการกระทำดังกล่าว จะส่งผลให้บุคคลนั้นได้ไปจุติเป็นเทพพรหมชั้นสูง 1000 ชาติ
ดอกบัว ดอกไม้ที่ควรนำไปบูชาแด่องค์สัมมาสัมพุทธเจ้า
บุญ คือสิ่งซึ่งเกิดขึ้นในจิตใจแล้วทำให้จิตใจใสสะอาด ปราศจากความเศร้าหมองขุ่นมัว ก้าวขึ้นสู่ภูมิที่ดี เกิดขึ้นจากการที่ใจสงบทำให้เลือกคิดเฉพาะสิ่งที่ดี ที่ถูก ที่ควร ที่เป็นประโยชน์ แล้วพูดดี ทำดี ตามที่คิดนั้น
บุญ เมื่อเกิดขึ้นแล้วย่อมส่งผลปรุงแต่งใจของเราให้มีคุณภาพดีขึ้น คือตั้งมั่นไม่หวั่นไหว บริสุทธิ์ผุดผ่องสว่างไสว โปร่งโล่ง ไม่อึดอัด อิ่มเอิบ ไม่กระสับกระส่าย ชุ่มชื่นเบาสบาย ผ่อนคลายไม่ตึงเครียด นุ่มนวลควรแก่การงาน และบุญที่เกิดขึ้นนี้ยังสามารถสะสมไว้ในใจได้อีกด้วย
คนทั่วไปแม้จะมองไม่เห็น "บุญ" แต่ก็สามารถรู้อาการของบุญ หรือ ผลของบุญได้ คือเมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้จิตใจชุ่มชื่นเป็นสุข เปรียบได้กับ "ไฟฟ้า" ซึ่งเรามองไม่เห็นตัวไฟฟ้าโดยตรง แต่เราสามารถรับรู้อาการของไฟฟ้าได้ เช่น เมื่อไฟฟ้าผ่านเข้าไปในหลอดไฟแล้วเกิดแสงสว่างขึ้น หรือเมื่อผ่านเข้าไปในเครื่องปรับอากาศแล้วเกิดความเย็นขึ้นเพราะฉะนั้นเราควรจะทำบุญเมื่อยังมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะได้สร้างบารมีให้กับตัวเอง เพราะเมื่อเราละโลกไปแล้วสิ่งที่ติดตัวของเราไปนั้นก็มีแค่บุญ กับ บาป
คนทั่วไปแม้จะมองไม่เห็น "บุญ" แต่ก็สามารถรู้อาการของบุญ หรือ ผลของบุญได้ คือเมื่อเกิดขึ้นแล้วทำให้จิตใจชุ่มชื่นเป็นสุข เปรียบได้กับ "ไฟฟ้า" ซึ่งเรามองไม่เห็นตัวไฟฟ้าโดยตรง แต่เราสามารถรับรู้อาการของไฟฟ้าได้ เช่น เมื่อไฟฟ้าผ่านเข้าไปในหลอดไฟแล้วเกิดแสงสว่างขึ้น หรือเมื่อผ่านเข้าไปในเครื่องปรับอากาศแล้วเกิดความเย็นขึ้นเพราะฉะนั้นเราควรจะทำบุญเมื่อยังมีชีวิตอยู่เพื่อที่จะได้สร้างบารมีให้กับตัวเอง เพราะเมื่อเราละโลกไปแล้วสิ่งที่ติดตัวของเราไปนั้นก็มีแค่บุญ กับ บาป
เพราะฉะนั้นเราจึงควรสั่งสมบุญ โดยทำความดีเสียตั้งแต่วันนี้ จะได้ส่งผลให้มีสติปัญญาดี มีความเฉลียวฉลาด มีความเจริญก้าวหน้าในชีวิตต่อไปในอนาคต ดังเช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งได้ทรงทำความดี สร้างสมบารมีมามากนับภพนับชาติไม่ถ้วน ในภพชาติสุดท้ายก็ทรงตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ตั้งแต่ยังเยาว์ เมื่อทรงออกผนวชก็ตั้งใจบำเพ็ญเพียรเจริญสมาธิ(Meditation)ภาวนาอย่างเต็มที่ จึงสามารถตรัสรู้ธรรมเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ เมื่อมีพระชนมายุเพียง ๓๕ พรรษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น