วันนี้(9ต.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโรงสีข้าวจังหวัดพิษณุโลกจำนวน 9 แห่งที่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตามโครงการรับจำนำข้าวนาปี ฤดูกาลผลิตปี 2555/2556 เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2555 สิ้นสุดวันที่ 15 ก.ย. 2556 ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงาไม่มีชาวนานำข้าวเข้ามาจำนำแต่อย่างใด
น.ส.โกสุมา ศรีสุโข ผู้ช่วยผู้จัดการโรงสีเจริญพาณิชย์ หมู่ 7 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ทางโรงสีมีความพร้อมในการรับจำนำข้าวนาปี ฤดูกาลผลิตปี 2555/2556 แล้ว แต่หลังจากเปิดโครงการมา วันนี้เป็นวันที่ 9 ปรากฏว่า ยังไม่มีเกษตรกรนำข้าวมาจำนำแม้แต่รายเดียว คาดว่า ติดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องภัยธรรมชาติจากน้ำท่วมที่ผ่านมาทำให้ผลผลิตเสียหาย และประกอบกับช่วงนี้มีพายุ “แกมี” กำลังเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ชาวนาชะลอการเก็บเกี่ยวออกไปก่อน
อย่างไรก็ตามคาดว่าหลังจากหมดพายุแล้วชาวนาคงเริ่มทยอยนำผลผลิตออกมาจำนำ ส่วนช่วงนี้ชาวนาที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการจำนำข้าว สามารถนำข้าวมาขายให้โรงสีได้โดยตรง ซึ่งทางโรงสีจะรับซื้อในราคา ตันละ 9,000 บาท ขึ้นกับความชื้น หากความชื้นสูงถูกหักมากจะส่งผลให้ข้าวที่นำมาขาย ขายได้ราคาเพียงตันละ 7,000-8,000 บาท
ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมรับกับพายุฝนที่ตกหนักในช่วงนี้ ทางโรงสีได้ติดตั้งเครื่องสูงน้ำจำนวน 7 จุด รอบพื้นที่ลานตากข้าวเพื่อเร่งระบายน้ำไม่ให้ท่วมจังลานตากข้าวและโกดังข้าว เนื่องจากเมื่อปี 2548 ทางโรงสีเคยประสบปัญหาน้ำท่วม หลังน้ำจากมีการระบายน้ำจากเขื่อน ทำให้น้ำในแม่น้ำน่านสูงกว่าตลิ่ง จึงท่วมพื้นที่เขตเมืองพิษณุโลกส่งผลให้ข้าวในโกดังเสียหาย ในปีนี้หลังมีข่าวพายุพาดผ่ายพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างจึงเตรียมรับมือกับสถานการณ์เพื่อป้องกันความเสียหาย
น.ส.โกสุมา ศรีสุโข ผู้ช่วยผู้จัดการโรงสีเจริญพาณิชย์ หมู่ 7 ต.วัดจันทร์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ทางโรงสีมีความพร้อมในการรับจำนำข้าวนาปี ฤดูกาลผลิตปี 2555/2556 แล้ว แต่หลังจากเปิดโครงการมา วันนี้เป็นวันที่ 9 ปรากฏว่า ยังไม่มีเกษตรกรนำข้าวมาจำนำแม้แต่รายเดียว คาดว่า ติดปัญหาเกี่ยวกับเรื่องภัยธรรมชาติจากน้ำท่วมที่ผ่านมาทำให้ผลผลิตเสียหาย และประกอบกับช่วงนี้มีพายุ “แกมี” กำลังเข้ามาในพื้นที่ ทำให้ชาวนาชะลอการเก็บเกี่ยวออกไปก่อน
อย่างไรก็ตามคาดว่าหลังจากหมดพายุแล้วชาวนาคงเริ่มทยอยนำผลผลิตออกมาจำนำ ส่วนช่วงนี้ชาวนาที่ไม่สามารถเข้าร่วมโครงการจำนำข้าว สามารถนำข้าวมาขายให้โรงสีได้โดยตรง ซึ่งทางโรงสีจะรับซื้อในราคา ตันละ 9,000 บาท ขึ้นกับความชื้น หากความชื้นสูงถูกหักมากจะส่งผลให้ข้าวที่นำมาขาย ขายได้ราคาเพียงตันละ 7,000-8,000 บาท
ทั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมรับกับพายุฝนที่ตกหนักในช่วงนี้ ทางโรงสีได้ติดตั้งเครื่องสูงน้ำจำนวน 7 จุด รอบพื้นที่ลานตากข้าวเพื่อเร่งระบายน้ำไม่ให้ท่วมจังลานตากข้าวและโกดังข้าว เนื่องจากเมื่อปี 2548 ทางโรงสีเคยประสบปัญหาน้ำท่วม หลังน้ำจากมีการระบายน้ำจากเขื่อน ทำให้น้ำในแม่น้ำน่านสูงกว่าตลิ่ง จึงท่วมพื้นที่เขตเมืองพิษณุโลกส่งผลให้ข้าวในโกดังเสียหาย ในปีนี้หลังมีข่าวพายุพาดผ่ายพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างจึงเตรียมรับมือกับสถานการณ์เพื่อป้องกันความเสียหาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น