วัดนางพญา ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุโดยห่างจากแนวกำแพงชั้นนอกของวัด พระศรีรัตนมหาธาตุประมาณ 10 เมตร โดยมีพื้นที่ดังนี้
ทิศเหนือ ติดต่อกับวัดพระศรีรัตนมหาธาตุและถนนจ่าการบุญ
ทิศใต้ ติดต่อกับวัดราชบูรณะ และถนนสิงหวัฒน์
ทิศตะวันออก ติดต่อกับประตูผี และประตูมอญและแนวกำแพงเมืองเดิม (ปัจจุบันเป็นศูนย์การค้าใหญ่แห่งหนึ่ง)
ทิศตะวันตก ติดต่อกับแนวกำแพงเมือง และแม่น้ำน่าน
การประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถาน
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 53 ตอนที่ 34 วันที่ 27 กันยายน 2479 เฉพาะวิหาร (สภาพปัจจุบันเป็นอุโบสถ) และเจดีย์ 2 องค์
ประวัติวัดนางพญา
วัดนางพญาปรากฏขึ้นในจดหมายเหตุรายวันระยะทางไปพิษณุโลกของสมเด็จเจ้าฟ้ากรม พระยานริศรานุวัดติวงศ์เมื่อ 13 พฤษภาคม ร.ศ. 120 (พ.ศ. 2444) ความว่า . . .ออกจากศาลาการเปรียญไปวัดนางพญาดูระฆังใหญ่ปากกว้างประมาณ 2 ศอก เป็นระฆังญวนทำด้วยเหล็ก แล้วไปดูวิหาร เล็กกว่าวัดราชบูรณะหน่อยหนึ่ง. .
ระฆังญวน
นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินยังวัด นางพญาเมื่อ 16 ตุลาคม ร.ศ. 120 (พ.ศ. 2444) . . .เมื่อเสร็จการจุดเทียนชัยแล้ว ไปดูวัดนางพระยาซึ่งอยู่ติดต่อกับวัดมหาธาตุติดกันทีเดียว วัดนี้มีแต่วิหารไม่มีพระอุโบสถ มีโรงเรียนพิษณุโลกพิทยาคมตั้งอยู่ได้ในนั้นโรงหนึ่ง พระสอนมีนักเรียนมากที่คับแคบไม่พอ ออกจากวัดนางพระยาไปถึงวัดราชบูรณะ ไม่มีบ้านเรือนคั่น. . .
ภาพจิตรกรรมฝาผนัง
วิหารเดิมวัดนางพญาได้ถูกทางวัดแปลงเป็นพระอุโบสถโดยการฝั่งลูกนิมิตเข้าไป ซึ่งเดิมมี ภาพกิจกรรมฝาผนังและเหลืออยู่เพราะด้านหลังท่านประธาน เข้าใจว่าเป็นเรื่องพุทธประวัติเพราะด้านหลังท่านประธานเป็นเรื่องไตรภูมิ ผนังวิหารมีทั้งที่เจาะช่องและหน้าต่างซึ่งของเดิมคงจะเป็นแบบเจาะช่องทั้ง หมด ซึ่งน่าจะมีอายุเก่าไปถึงสมัยอยุธยาหรือสุโขทัยก็ได้ ภายในมีพระประธานองค์ใหญ่ และทางวัดคิดจะรื้อวิหารหลังเดิมและสร้างพระอุโบสถใหม่แทนก็นับว่าน่า เสียดายอย่างยิ่ง ด้านหลังวิหารมีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสิงหลายองค์ อาจสร้างสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นก็ได้ และวัดนางพระยายังมีชื่อเสียงเรื่องพระเครื่อง คือ นางพระนางพญา พบในกรุครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2444 ซึ่งเป็นปีที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเมืองพิษณุโลก เพื่อทอดพระเนตรการหล่อพระพุทธชินราชจำลอง และศาลาเล็กที่สร้างไว้เพื่อรับเสด็จและมีการพบกรุพระนางพญาและได้มีการนำ ทูลเล้าฯ ถวายและยังเหลืออยู่ที่วัดอีกมาก โดยใน พ.ศ. 2497 ได้มีการพบกรุวัดนางพญาตรงซากปรักหักพังหน้ากุฏิสมภารถนอม เจ้าอาวาส ซึ่งเมื่อขุดหลุมเสาก็พบพระนางพญาจำนวนมหาศาล แต่ไม่เป็นที่สนใจของชาวเมืองพิษณุโลกนัก จึงเก็บรวบรวมไว้ที่วัด ต่อมามีผู้คนที่สนใจได้หยิบฉวยเอาไปเพราะเห็นเป็นพระเก่า
เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสององค์ใหญ่และองค์เล็ก
เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสององค์ใหญ่ มีขนาดฐานกว้าง 9.10+9.10 เมตร สูง 11.60 เมตร ยังปรากฏชั้นฐานแข้งสิงห์อยู่สองชั้น สภาพค่อนข้างชำรุดทรุดโทรม ลักษณะศิลปะอยุธยาตอนปลายต่อรัตนโกสินทร์ตอนต้น
เจดีย์ย่อมุมไม้สิบสิงเล็ก มีขนาดฐานกว้าง 3.70+3.70 เมตร สูง 7.95 เมตร ยังปรากฏฐานแข้งสิงห์รองรับองค์ระฆังอยู่และบัวกลุ่มด้านบนยอดเหนือชั้นบัง ลังก์ขึ้น สภาพคอนข้างชำรุดเช่นเดียวกัน
น่าสังเกตว่าวัดนางพญานั้นเดิมหันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือโดยเข้าแนว แม่น้ำน่าน ซึ่งหลักฐานดังกล่าวแสดงถึงการให้ความสำคัญต่อทิศทางของลำน้ำน่านมักจะปรากฏ ในสมัยอยุธยาเป็นสำคัญ ดังนั้นวัดนางพญาน่าจะก่อสร้างเมื่ออยุธยาได้มีอำนาจเหนือเมืองพิษณุโลกแล้ว อาจจะอยู่ในสมัยเจ้าสามพระยา (สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2) หรือสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถก็เป็นไปได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น