วันอังคารที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

กินให้ดีมีสุขภาพตามกรุ๊ปเลือด




กินให้ดีมีสุขภาพตามกรุ๊ปเลือด

           ฤดูแห่งการเปลี่ยนแปลง อากาศเดี๋ยวร้อนเดี๋ยวเย็น นับว่าง่ายต่อการเจ็บไข้ได้ป่วย และเมื่อล้มป่วย ความงามก็จะถูกบดบังไปด้วย ดังนั้น วันนี้จะมาแนะนำสาวๆ ให้รู้จักเลือกกินเพื่อสุขภาพและความงามค่ะ

           อาจารย์นิพันธ์พงศ์ พานิช กรรมการผู้จัดการศูนย์ความงามโอเรียนทอล บิวตี้ กล่าวให้คำแนะนำเกี่ยวกับอาหารที่ควรเลือกรับประทาน โดยพิจารณาให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือดต่างๆ ดังนี้

กรุ๊ปโอ

          บุคคลเลือดกรุ๊ปโอจะมีระบบย่อยเนื้อแดงที่ดีมาก เพราะมีความเป็นกรดสูง ทำให้ย่อยอาหารได้เร็วและดูดซึมดี และสามารถให้ประโยชน์สูงสุดต่อส่วนต่างๆ ของร่างกาย จึงควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี เช่น เนื้อ ตับ เซี่ยงจี๊ ไข่ 5 ฟอง/อาทิตย์ ผลไม้ ผักใบเขียวและถั่ว ซึ่งเป็นชนิดที่เหมาะกับเลือดกรุ๊ปโอ

         คนที่มีเลือดกรุ๊ปโอ ส่วนใหญ่จะมีปัญหาเลือดแข็งตัวช้า ดังนั้นจึงต้องเสริมสร้างวิตามินเคให้เลือดกรุ๊ปนี้ด้วยการรับประทานตับ ไข่แดง คะน้า สปินิช ผัก Swiss chard และควรหันมารับประทานแป้งสเปลท์แทนแป้งสาลี ผลไม้ที่รับประทานกับเลือดกรุ๊ปโอได้จะมีไม่กี่ชนิด เช่น พลับ พรุน และมะเดื่อ ผลไม้จำพวกนี้จะช่วยลดการละคายเคืองในกระเพาะอาหารได้ น้ำผลไม้ที่ดี คือ น้ำสับปะรด จะช่วยอุ้มน้ำของเซลในร่างกาย หรือน้ำแบล็กเชอรี่ จัดว่าเป็นน้ำที่ดีกับเลือดกรุ๊ปโอมาก

กรุ๊ปเอ

         กรุ๊ปนี้จะเป็นกรุ๊ปทีมีความแตกต่างจากรุ๊ปโอโดยสิ้นเชิง เพราะประชากรกรุ๊ปเอนั้นจัดว่าเป็นพวกมังสวิรัติ ซึ่งมาจากระบบย่อยเป็นเหตุ คนเลือดกรุ๊ปเอจึงควรหลีกเลี่ยงไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ทั้งนี้ เพื่อลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและมะเร็ง ถ้าต้องการรับประทานเนื้อก็ให้เลือกที่จะรับประทานเนื้อไก่แทน เพราะไม่มัน ส่วนในผักและผลไม้จะได้วิตามินซี จากบร็อกโคลีผลไม้พวกเบอรี่ เกรฟฟรุต หรือส้มโอ สับปะรด เชอรี่ มะนาว และฝรั่ง นอกจากนี้ควรรับประทานอาหารที่มีวิตามินอีสูง เพื่อป้องกันโรคหัวใจและมะเร็ง วิตามินอีจะมีอยู่ในน้ำมันพืช ธัญพืช ถั่วลิสงและผักใบเขียว รวมถึงควรรับประทานอาหารเพื่อสร้างระบบภูมิคุ้มกันด้วย ซึ่งอาหารพวกนี้จะเป็นอาหารที่มีวิตามินบีมากๆ เช่น ธัญพืชขัดสี ปลา และไข่

          คนเลือดกรุ๊ปเอควรรับประทานผลไม้วันละ 3 เวลา เน้นไปที่ Alkaline fruit เช่นแบรี่และผลพลัม (ผลไม้ที่มีความเป็นกลางของกรด) จะช่วยความเป็นกลางในการสร้างกรดในกล้ามเนื้อ ควรเลี่ยงแตงโม แคนตาลูป และผลไม้เมืองร้อน เช่น มะม่วง มะละกอ กล้วย เพราะทำให้อาหารไม่ย่อย สับปะรด ส้มโอ มะนาวจะช่วยย่อยดีมาก รวมถึงมะนาวยังจะช่วยละลายเสมหะในระบบของเลือดกรุ๊ปเอ ดังนั้นทุกเช้าควรดื่มน้ำอุ่นที่ผสมมะนาวครึ่งลูก

กรุ๊ปบี

           คนเลือดกรุ๊ปนี้จัดอยู่ในพวกสมดุล เพราะเป็นเลือดเพียงกรุ๊ปเดียวที่สามารถรับประทานอาหารนม เนย ไข่ ได้อย่างเต็มที่ คนเลือดกรุ๊ปบีควรจะรับประทานปลาน้ำลึก เช่น ปลาหิมะ และปลาเนื้อขาว เช่น ปลาจะละเม็ด ปลาตาเดียว คนเลือดกรุ๊ปบีสามารถเลือกรับประทานผักได้เกือบทั้งหมด เว้นอยู่ไม่กี่ชนิด เช่น มะเขือเทศ ข้าวโพด เลือดกรุ๊ปบีมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับไวรัสและภูมิคุ้มกันบกพร่อง จึงควรรับประทานผักใบเขียวมากๆ เพราะมีแมกนีเซียมซึ่งช่วยป้องกันโรคผื่นคันในเด็ก ส่วนผลไม้ก็สามารถรับประทานได้แทบทุกชนิด เพราะมีระบบย่อยที่สมดุล มีเพียงลูกพลับ ทับทิม และลูกแพร์ที่ควรเลี่ยง คนเลือดกรุ๊ปบีควรรับประทานผลไม้ที่มีผลต่อเลือด 2-3 ครั้งต่อวัน จะให้ผลดีในการรักษาโรคและลดความเจ็บป่วยด้วย

กรุ๊ปเอบี

          การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพดีเยี่ยมของเลือดกรุ๊ปนี้ค่อนข้างจะซับซ้อน เพราะเป็นส่วนผสมของทั้งกรุ๊ปเลือดเอและบี อาหารที่ดีต่อกรุ๊ปเอและบีก็ดีต่อกรุ๊ปเอบีด้วย แต่ต้องหลีกเลี่ยงอาหารต้องห้ามอย่างจริงจัง อาหารมังสวิรัติจะให้ผลดีต่อร่างกาย ผลิตภัณฑ์นมและไข่ รับประทานได้แต่ไม่มาก โปรตีนที่เหมาะสมจะได้จากอาหารทะเล เต้าหู้ เนื้อแดง แกะ กวาง และกระต่าย ซึ่งควรรับประทานครั้งละน้อยๆ จึงจะย่อยได้ดี เพราะกระเพาะของคนเลือดกรุ๊ปเอบี ไม่ผลิตน้ำย่อยเพียงพอที่จะย่อยโปรตีนที่มากเกินไป คนเลือดกรุ๊ปเอบีจะมีระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอ จึงควรรับประทานผักสดมากๆ เพราะเป็นอาหารสำคัญในการป้องกันมะเร็งและโรคหัวใจ ซึ่งเกิดได้ง่ายในกรุ๊ปเอบีส่วนเรื่องของผลไม้นั้น คนเลือดกรุ๊ปนี้จะสามารถรับประทานผลไม้ได้ดีเพียงบางอย่าง เช่น องุ่น พลัม และแบรี่ เพราะเป็นผลไม้ที่มีกรดเป็นกลาง ช่วยสร้างความสมดุลให้เนื้อเยื่อ อันเนื่องมาจากการบริโภคแป้งและข้าว

           กรุ๊ปเลือดแต่ละกรุ๊ปมีความแตกต่างกัน จึงต้องเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม เพื่อให้เกิดสมดุลตามธรรมชาติ เพราะปัญหาสุขภาพเรื้อรังบางชนิดไม่อาจรักษาให้หายขาดด้วยยาแผนปัจจุบัน แต่ทำได้ง่ายๆ ด้วยการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการบริโภคเสียใหม่ อาหารประเภทใดก็ตามควรรับประทานในปริมาณที่พอเหมาะ อาหารทุกอย่างมักจะมีข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวของมันเอง เลือกใช้ให้ถูกวิธี เพราะสุขภาพที่ดีมาจากการเอาใจใส่ร่างกาย การใช้ชีวิตประจำวันที่ถูกต้องและเหมาะสม ก่อนจะรับประทานอะไรเข้าไปให้จดจำไว้เสมอว่า "กินอะไรก็ได้อย่างนั้น" หรือ You are what you eat เป็นการเตือนใจก่อนจะตามใจปากจนสายเกินแก้ค่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น