การตัดสินใจซื้อบ้านสักหลังมีข้อควรรู้มากมายที่คุณต้องพิจารณาให้ดี โดยเฉพาะกับปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น ปัญหาข้อพิพาทในสัญญาซื้อขายต่าง ๆ ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมจึงรวบรวมข้อมูลน่ารู้เกี่ยวกับปัญหาในการซื้อบ้านมาฝากคุณกันจ้า
ปัญหาระหว่างการจองในช่วงที่คุณตัดสินใจวางเงินจองบ้าน ไม่ว่าจะด้วยข้อเสนอเงินจองที่ถูกแสนถูก หรือด้วยความอยากได้สุด ๆ ของคุณในเวลานั้น บ่อยครั้งมักเกิดปัญหาโดนยึดเงินจองในภายหลัง ซึ่งปัจจัยที่ทำให้คุณต้องเสียเงินไปฟรี ๆ ซึ่งควรนำไปพิจารณามีดังนี้
1. ควรตรวจสอบความต้องการที่แท้จริงของคุณก่อน ว่าใช่บ้านแบบที่คุณต้องการแน่หรือไม่ เช่น ความสะดวกในการเดินทาง ราคาบ้าน สไตล์ของบ้าน และสภาพแวดล้อม 2. พื้นที่ใช้สอยของบ้านมีเพียงพอต่อสมาชิกในครอบครัวหรือไม่ 3. ความน่าเชื่อถือของโครงการ 4. กำลังในการผ่อนชำระเงินดาวน์ 5. เครดิตในการขอสินเชื่อและกำลังในการผ่อนชำระหลังโอนกรรมสิทธิ์หากคุณพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ก็อาจจะช่วยทำให้ปัญหาการยึดเงินจองมีโอกาสน้อยลงได้ แต่ถ้าคุณไม่มั่นใจว่ามีความพร้อมในการซื้อบ้านมากพอ ก็อย่าเพิ่งรีบวางเงินจองจะดีกว่านะคะ เพราะไม่อย่างนั้นเกิดเปลี่ยนใจ หรือขอสินเชื่อไม่ผ่านขึ้นมา จะโดนยึดเงินจองเอาได้ง่าย ๆ
ปัญหาก่อนโอนกรรมสิทธิ์นี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะเมื่อมาถึงขั้นตอนนี้เงินดาวน์บางส่วนของคุณจะถูกผ่อนชำระไปแล้ว ดังนั้นหากมีปัญหาเกิดขึ้น หลายคนจึงไม่กล้าหยุดผ่อนชำระเพราะเสียดายเงินดาวน์ และกลัวจะผิดสัญญา
แต่ที่จริงแล้วการปกป้องสิทธิของตัวเองก็เป็นเรื่องสำคัญ เช่น หากมีการก่อสร้างไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ ใช้วัสดุไม่ตรงแบบ ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกตามโฆษณา ฯลฯ คุณเองก็มีสิทธิ์ที่จะหยุดผ่อนชำระเงินดาวน์ได้เช่นกัน แต่ก่อนอื่นต้องมีหนังสือเตือนให้โครงการดำเนินการแก้ไขก่อน แต่หากยังมีการเพิกเฉยจากโครงการ กฎหมายก็คุ้มครองให้โครงการคืนเงินมัดจำพร้อมดอกเบี้ยให้กับคุณได้
ทั้งนี้หากมีการตรวจพบจุดบกพร่องของบ้าน ให้ถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน และทำหนังสือที่ลงรายการให้ละเอียด แจ้งไปยังโครงการเพื่อให้ลงชื่อและกำหนดเวลาในการแก้ไขต่อไป แต่หากครบกำหนดแล้วยังไม่มีการดำเนินการแก้ไข หรือปรับปรุงแล้วแต่ยังบกพร่องอยู่ ให้นำเอกสารไปแจ้งต่อเจ้าหน้าที่กรมที่ดินว่ายังไม่สามารถรับโอนกรรมสิทธิ์ด้ จนกว่าบ้านจะแก้ไขเสร็จเรียบร้อย จำไว้ว่าหากยังไม่ได้บ้านที่สมบูรณ์อย่าเซ็นรับโอนกรรมสิทธิ์เด็ดขาด! จะได้ไม่เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
ปัญหาหลังโอนกรรมสิทธิ์หลังจากที่คุณตกลงเซ็นสัญญารับโอนกรรมสิทธิ์บ้านแล้ว แน่นอนว่าทางโครงการจะไม่ได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับบ้านของคุณอีก นอกจากการรับประกันบ้านตามตกลงเท่านั้น ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากนี้ทำใจไว้ได้เลยว่า คุณจะต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง เช่น ที่ดินผืนดังกล่าว ถูกสร้างขึ้นบนทางสาธารณะ หรือที่ดินถูกเวนคืน แม้จะเป็นการซื้อขายมาจากโครงการบ้านจัดสรร แต่เมื่อโอนกรรมสิทธิ์แล้วคุณก็ต้องถูกรื้อถอน หรือถอนโฉนด โดยที่โครงการไม่เกี่ยวข้อง การตรวจสอบให้ถี่ถ้วนก่อนตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
นอกจากนี้อาจจะมีปัญหาการก่อสร้างที่ผิดแบบจากที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจทำให้คุณต้องถูกสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขเสียเงินเสียทองเพิ่มได้ ดังนั้นอย่าลืมตรวจสอบพิมพ์เขียวให้ถูกต้อง ไม่ให้มีส่วนที่ผิดข้อกำหนด ก็จะช่วยลดปัญหาหลังโอนบ้านได้
ส่วนปัญหาต่างคาดไม่ถึงอย่าง น้ำท่วม ไฟไหม้ ฯลฯ หากบ้านของคุณถูกโอนกรรมสิทธิ์แล้ว การป้องกันบ้านด้วยตัวเองจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด แม้บางโครงการจะมีนิติบุคคลคอยดูแลในส่วนกลางให้ แต่ถึงอย่างไรภายในตัวบ้านที่เป็นกรรมสิทธิ์ของคุณก็ไม่สามารถเรียกร้องการดูแลช่วยเหลือได้มากนัก ส่วนใหญ่บ้านใหม่ที่เพิ่งโอนกรรมสิทธิ์มักจะมีการทำประกันภัยเอาไว้ ถือว่าเป็นการช่วยแก้ปัญหาได้ในระดับหนึ่ง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอย่าประมาทและละเลยการดูแลบ้านนะคะ
นี่เป็นเพียงแค่ปัญหาส่วนหนึ่งที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคุณตัดสินใจซื้อบ้าน แต่หากมีการเตรียมตัวรับมืออย่างดี เชื่อได้เลยว่าคุณจะได้บ้านใหม่ที่ถูกใจไร้ปัญหาอย่างแน่นอนเลยจ้า
ที่มา : home.kapook.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น