วันจันทร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2555
พระพุทธชินราชอินโดจีน พ.อ.สุจินต์ สวัสดี พระเครื่องคนดัง
"ผมสะสมพระเครื่องเพื่อเป็นสิ่ง ยึดเหนี่ยวจิตใจ พระเครื่องเปรียบเสมือนตัวแทนพระพุทธองค์ ที่ท่านสอนให้เราคิดดี ทำดี ประพฤติดี ปฏิบัติดี เป็นการเตือนสติให้กระทำแต่ความดี ประพฤติดี ละเว้นการทำความชั่วหรือการกระทำที่ผิดศีลธรรม และเชื่อว่าการกระทำความดีนั้นไม่มีที่สิ้นสุดทำได้ตลอดเวลา ที่ยังมีลมหายใจอยู่" เป็นคติความเชื่อของ"พ.อ.สุจินต์ สวัสดี"ผอ.เบี้ยหวัดบำเหน็จ-บำนาญ กรมการเงิน กองทัพบก
"เสธ.จินต์" เป็นอีกผู้หนึ่งที่ชื่นชอบสะสมวัตถุมงคลพระเครื่องมายาวนานกว่า 30 ปี ส่วนใหญ่พระเครื่องเป็นมรดกของคุณปู่ ตกทอดมายังรุ่นคุณพ่อ ก่อนมาอยู่ในความครอบครองของเสธ.จินต์
พ.อ.สุ จินต์บอกเล่าถึงการสะสมวัตถุมงคล ว่า "การสะสมพระเครื่องของผมนั้น ส่วนใหญ่ผมไม่ได้ไปหาเช่าบูชาที่ไหนเลย มีแต่ผู้ใหญ่และผู้ที่เคารพนับถือมอบให้มาทั้งสิ้น ซึ่งผมคิดว่า ผู้ที่ให้พระมานั้น คือ ผู้ที่รักและปรารถนาดีกับตัวเรา มีความตั้งใจที่ดี เมื่อได้รับมาก็ถือว่า เป็นสิ่งที่มีคุณค่า เป็นสิริมงคลกับตัวมาตลอด"
สำหรับ พระที่แขวนขึ้นคอติดตัว พ.อ. สุจินต์ มีอยู่หลายองค์ ซึ่งองค์ที่เป็นประธานหรือที่แขวนองค์กลาง คือ พระพุทธชินราชอินโดจีน ที่ได้มากว่า 30 ปี มีความเชื่อส่วนตัวมานานแล้วว่า ตั้งแต่แขวนพระชุดนี้มา ทำให้ตนมีแต่ความโชคดี แคล้วคลาดปลอดภัยมาโดยตลอด
เส ธจินต์บอกเล่าถึงการศึกษาประวัติพระเครื่อง หลังจากที่แขวนพระชุดนี้ไม่นาน จึงเริ่มศึกษาประวัติของพระแต่ละองค์ที่มีอยู่ เริ่มจากพระพุทธชินราชอินโดจีน หรือพระพุทธชินราชวัดสุทัศนเทพวราราม ปี 2485 ส่วนใหญ่นักสะสมพระเครื่อง เรียกกันติดปากว่า "พระพุทธชินราชอินโดจีน" ถือกันว่าเป็นสุดยอดของพระเครื่องในยุคก่อนปี พ.ศ.2500
ใน การประกอบพิธีจัดสร้างและปลุกเสกนั้นถือว่ายิ่งใหญ่มาก ด้วยมีพระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจากทั่วประเทศ 108 องค์ เข้าร่วมพิธีนั่งปรกอธิษฐานจิต โดยให้วัดสุทัศนเทพวราราม เป็น ผู้ดำเนินการ
ส่วน ชนวนมวลสาร สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ท่านได้นำเอาชนวนพระกริ่งที่ท่านได้สร้างก่อนหน้านี้มาหลอมลงในเบ้าผสมเป็น จำนวนมาก เมื่อหล่อพระเสร็จแล้ว ได้จัดให้มีพิธีปลุกเสก เมื่อวันที่ 21 มี.ค.2485
"ผม คิดอยู่เสมอว่าพระทุกองค์ที่คล้องอยู่ ในคอ ก่อนเดินทางออกจากบ้าน พระทุก องค์ท่านมีพุทธคุณที่ดี ก็จะอาราธนาท่าน เพื่อให้คุ้มครองในการเดินทางให้แคล้วคาด ปลอดภัย ซึ่งทำให้เรามีกำลังใจ และมั่นใจในการทำงาน"
ความ เชื่อส่วนตัวของ พ.อ.สุจินต์เชื่อว่า พระเครื่องทุกองค์ท่านมีพุทธคุณที่ดีมากอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นมวลสารที่ผสมอยู่ในองค์พระ ที่เป็นมวลสารที่สิริมงคล ประกอบกับการจัดทำพิธีพุทธาพิเษก ที่มีการสวดบทวิชาคาถา ที่เป็นสิริมงคลทั้งสิ้น พระที่มาร่วมพิธีนั่งปรกอธิฐานจิต ก็เป็นพระที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ หรือเป็นพระ สุปฏิปันโนอยู่แล้ว
"ช่วง เวลาว่าง ผมมักนำพระเครื่องมาส่องดู เพี่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพราะส่วนใหญ่พระที่ได้มาก็ได้มาจากผู้ใหญ่ เพื่อนๆ และลูกน้อง พระที่ได้ทุกองค์ ผมถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่า ที่เขาตั้งใจมอบมาให้เรา ต้องเก็บรักษาไว้ อย่างดี และนำทุกองค์มาศึกษาดูประวัติ เพื่อเป็นความรู้"
"ทหาร เป็นรั้วของชาติ ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามชายแดนปกป้องอธิปไตยที่ต้องตื่นตัวและมีความ เสี่ยงอยู่ทุกขณะ ทำให้ต้องไขว่คว้าหาสิ่งยึดเหนี่ยวใจ ซึ่งใจชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในช่วงของชีวิตนั้น เมื่อทราบว่าที่ใดมีพระอาจารย์หรือเกจิอาจารย์ที่ประพฤติปฏิบัติดี ก็จะไปกราบฝากตัวเป็นลูกศิษย์หรือขอพรเพื่อเป็นศิริมงคลจากท่าน"
พ.อ.สุ จินต์ฝากถึงนักสะสมพระเครื่อง ว่า หากเรามีสะสมไว้ก็ควรที่จะศึกษาถึงประวัติ และอย่าลืมว่าพระเครื่องเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้เราคิดดี ทำดี และระลึกถึงพระคุณขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น