Human Papillomavirus คือ ไวรัสทั่วไปที่ทำให้เกิดการติดเชื้อทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่ง HPV มีมากกว่า 100 ชนิด บางชนิดทำให้เกิดหูดที่มือและเท้า HPV ส่วนใหญ่ไม่ทำให้เกิดอาการใดๆ และจะหายไปเองโดยไม่ต้องได้รับการรักษา
HPV ประมาณ 30 ชนิดเป็นที่รู้จักกันในนาม genital HPV (HPV ที่บริเวณอวัยวะเพศ) เนื่องจากทำให้เกิดการติดเชื้อที่บริเวณอวัยวะเพศ บางชนิดจะทำให้เซลล์บุผิวปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลง หากไม่ได้รับการรักษา เซลล์ผิดปกติเหล่านี้อาจเปลี่ยนไปเป็นเซลล์มะเร็ง HPV ชนิด อื่นๆ อาจทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศและมีการเปลี่ยนแปลงที่ปากมดลูกซึ่งไม่ใช่มะเร็ง (มีความผิดปกติ แต่ไม่ใช่มะเร็ง) HPVหลายชนิดทำให้ผลการตรวจ Pap tests ที่ผิดปกติ
สามารถพบ HPV ได้บ่อยเพียงใด?
HPV อาจพบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด ในปี ค.ศ. 2001 องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประมาณการณ์ว่า มีผู้ติดเชื้อ HPVนี้ทั่วโลกอยู่ 630 ล้านคน (9-13%)
ใครที่มีโอกาสได้รับเชื้อ genital HPV?
ใครก็ตามที่มีเพศสัมพันธ์ในลักษณะใดก็ตามมีโอกาสได้รับเชื้อ genital HPV ซึ่งแม้ว่าไม่มีการสอดใส่อวัยวะเพศก็อาจได้รับเชื้อนี้ได้ เนื่องจากผู้ที่มีเชื้อ HPV จะไม่แสดงอาการใดๆ จึงอาจมีการแพร่เชื้อโดยที่เจ้าตัวเองไม่ทราบ HPV เป็นไวรัสที่แพร่กระจายได้ง่ายจึงอาจทำให้ติดเชื้อแม้สัมผัสเชื้อเพียงครั้งเดียว มีการประมาณการณ์ว่า หลายคนอาจได้รับเชื้อ HPV ภายใน 2-3 ปีแรกที่เริ่มมีเพศสัมพันธ์ ตามข้อมูลของ WHO 2 ใน 3 ของผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับคู่ของตนซึ่งติดเชื้อ HPV จะติดเชื้อ HPV ภายใน 3 เดือน
ทุกคนที่ได้รับเชื้อ HPV จะเป็นมะเร็งปากมดลูกหรือหูดที่อวัยวะเพศหรือไม่?
ไม่ สำหรับคนส่วนใหญ่ที่ได้รับเชื้อ HPV กลไกป้องกันของร่างกายจะสามารถกำจัดเชื้อได้เอง อย่างไรก็ตามสำหรับบางคนเชื้อบางชนิดอาจทำให้เกิดหูดที่อวัยวะเพศ หรือการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติของปากมดลูกแต่ยังไม่ใช่มะเร็ง
และสำหรับหญิงที่ไม่สามารถกำจัดไวรัสชนิดนั้นๆได้ ก็อาจเกิดความผิดปกติขึ้นกับเซลล์บุผิวปากมดลูก ซึ่งเซลล์ที่ผิดปกติเหล่านี้ หากตรวจไม่พบหรือไม่ได้รับการรักษา อาจนำไปสู่ระยะก่อนเป็นมะเร็งและมะเร็งได้ โดยส่วนใหญ่แล้วการเกิดมะเร็งปากมดลูกจะใช้เวลาหลายปี แต่ในบางรายซึ่งพบไม่บ่อยอาจเกิดขึ้นได้ภายในระยะเวลา 1 ปี คุณควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลคุณเกี่ยวกับการทำ Pap test (หรือที่เรียกกันว่า Papanicolaou smear) ซึ่งจะช่วยในการตรวจหาความเปลี่ยนแปลงของเซลล์ปากมดลูกที่น่าสงสัยว่าจะเกิดโรค
หากการติดเชื้อ HPV ไม่มีอาการใดๆ จะทราบได้อย่างไรว่ามีเชื้อนี้อยู่?
เนื่องจาก HPV ไม่ทำให้เกิดอาการแสดงใดๆ คุณจึงอาจไม่ทราบว่าคุณมีเชื้อนี้อยู่ ผู้หญิงส่วนใหญ่ทราบว่าตนมีเชื้อ HPV หลังจากที่ผล Pap test ออกมาผิดปกติ Pap test (หรือที่เรียกกันว่า Papanicolaou smear) เป็นส่วนหนึ่งของการตรวจทางนรีเวชและช่วยในการตรวจหาเซลล์บุผิวปากมดลูกที่ผิดปกติ แพทย์จะทำ Pap test เพื่อตรวจหาและรักษาเซลล์ที่ผิดปกติเหล่านี้ก่อนที่จะมีโอกาสเปลี่ยนไปเป็นระยะก่อนเป็นมะเร็งหรือมะเร็ง แพทย์สามารถรักษาเซลล์ที่มีความผิดปกติและระยะก่อนเป็นมะเร็งหลายชนิด ซึ่งเกิดจากเชื้อ HPV นี้ได้หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก อันที่จริงแล้วมะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่สามารถป้องกันได้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่คุณควรทำ Pap test ตามที่แพทย์แนะนำ
การตรวจอื่นๆ ( HPV DNA test ) สามารถช่วยในการตรวจหาชนิดของ HPV ที่อาจทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูก ผลการตรวจจะช่วยในการตัดสินใจของแพทย์ว่าจำเป็นต้องตรวจหรือให้การรักษาเพิ่มเติมหรือไม่
ฉันจะลดความเสี่ยงในการได้รับเชื้อ genital HPV ได้อย่างไร?
เพื่อป้องกันการติดเชื้อ genital HPV ใหม่ คุณต้องหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ทางอวัยวะเพศ หรือจำกัดจำนวนคู่นอนของคุณ ถุงยางอนามัยอาจช่วยลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ HPV แต่เนื่องจากถุงยางอนามัยไม่ได้ปกคลุมทุกส่วนของอวัยวะเพศ จึงไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อได้อย่างสมบูรณ์
ในเรื่องนี้อาจหาข้อมูลได้ในส่วนอื่นของเวบไซต์นี้ หรือกรุณาสอบถามแพทย์ผู้ดูแลคุณเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม
หมายเหตุ
ล่าสุดการวิจัยโรคมะเร็ง UK รายงานว่าอัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ป่วยที่ติดเชื้อ HPV-บวกของมะเร็งในช่องปากที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการทำออรัลเซ็กซ์ องค์การอนามัยได้รายงานว่ามีการติดเชื้อ HPV ได้มากกว่าร้อยละ 5 ของมะเร็งทั่วโลก
การติดเชื้อ HPV สามารถส่งผ่านระหว่างชายและหญิงโดยการสัมผัสอวัยวะเพศส่วนใหญ่มักจะในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนักหรือทางช่องคลอดและ มันอาจจะถูกส่งผ่านระหว่างเพศในช่องปากและการสัมผัสอวัยวะเพศไปที่อวัยวะเพศ การติดเชื้อ HPV สามารถผ่านขึ้นระหว่างเพศสัมพันธ์ทางตรงและเพศเดียวกัน ที่สำคัญผู้ติดเชื้ออาจจะไม่แสดงอาการใด ๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น