มติสภาฯ ผ่านฉลุยกฎหมายเดินหน้าโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม บรรยากาศในการอภิปรายเป็นไปอย่างราบรื่น มี ส.ส.ลุกขึ้นใช้สิทธิ์อภิปรายไม่มาก มาตราละ 1-2 คน และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ไม่มีการประท้วง...
วันที่ 20 ก.ย. 56 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ (2 ล้านล้านบาท) ตั้งแต่เวลา 17.30 น. มีการพิจารณาตั้งแต่มาตรา 6 ถึง 19 ซึ่งบรรยากาศการอภิปรายใน เป็นไปอย่างราบรื่น มี ส.ส.ลุกขึ้น ใช้สิทธิ์อภิปรายจำนวนไม่มาก เพียงมาตราละ 1-2 คน และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ไม่มีการประท้วง และแต่ละมาตรามีการลงมติเห็นด้วยตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก และบางมาตราไม่มีผู้อภิปราย ก็ไม่มีการลงมติ คือ มาตรา 8 มาตรา 9 มาตรา 12มาตรา 13 มาตรา 15 และ มาตรา 19
แต่ในส่วนของมาตรา 18 ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยตามกรรมาธิการให้มีการตัดออก นอกจากนี้ยังมีผู้แปรญัตติให้มีการเพิ่มมาตรา 20-21 แต่ที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับผู้แปรญัตติ จากนั้นได้พิจารณาในบัญชีแนบท้ายต่อ และได้ลงมติเห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมาก โดยก่อนการลงมตินายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการ ได้กล่าวขอบคุณ พร้อมยืนยันว่าจะดูแลเงินกู้อย่างโปร่งใส กระทั้งเวลา 23.20 น.ที่ประชุมมีการลงมติในวาระ 3 โดยที่ประชุมเห็นด้วยตามกรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก 287 ต่อ 105 และนายวิสุทธิ์ ไชยนรุณ ประธานในที่ประชุมได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 23.25 น.
วันที่ 20 ก.ย. 56 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนา โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ (2 ล้านล้านบาท) ตั้งแต่เวลา 17.30 น. มีการพิจารณาตั้งแต่มาตรา 6 ถึง 19 ซึ่งบรรยากาศการอภิปรายใน เป็นไปอย่างราบรื่น มี ส.ส.ลุกขึ้น ใช้สิทธิ์อภิปรายจำนวนไม่มาก เพียงมาตราละ 1-2 คน และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง ไม่มีการประท้วง และแต่ละมาตรามีการลงมติเห็นด้วยตามกรรมาธิการเสียงข้างมาก และบางมาตราไม่มีผู้อภิปราย ก็ไม่มีการลงมติ คือ มาตรา 8 มาตรา 9 มาตรา 12มาตรา 13 มาตรา 15 และ มาตรา 19
แต่ในส่วนของมาตรา 18 ที่ประชุมลงมติเห็นด้วยตามกรรมาธิการให้มีการตัดออก นอกจากนี้ยังมีผู้แปรญัตติให้มีการเพิ่มมาตรา 20-21 แต่ที่ประชุมมีมติไม่เห็นด้วยกับผู้แปรญัตติ จากนั้นได้พิจารณาในบัญชีแนบท้ายต่อ และได้ลงมติเห็นด้วยกับกรรมาธิการเสียงข้างมาก โดยก่อนการลงมตินายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมาธิการ ได้กล่าวขอบคุณ พร้อมยืนยันว่าจะดูแลเงินกู้อย่างโปร่งใส กระทั้งเวลา 23.20 น.ที่ประชุมมีการลงมติในวาระ 3 โดยที่ประชุมเห็นด้วยตามกรรมาธิการฯ เสียงข้างมาก 287 ต่อ 105 และนายวิสุทธิ์ ไชยนรุณ ประธานในที่ประชุมได้สั่งปิดการประชุมในเวลา 23.25 น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น