วันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ลดน้ำหนัก วิธีลดความอ้วน วิธีกำจัดเซลลูไลท์ ต้นเหตุของความอ้วนเผละ


โดย นพ.ถนอมกิต เพราะสุนทร แพทย์ผิวหนัง โรงพยาบาลสมิติเวช

          เอาใจคุณยังสาวหลาย ๆ คนที่มีปัญหาเซลลูไลท์ตามมากวนใจ ตั้งแต่มีน้องคนแรกยันคนที่สองก็ยังตัดขาดจากกันไม่ได้สักที APPEAL ฉบับนี้ขอพาคุณแม่ไปรู้จักกับเพื่อนตัวป่วนเจ้าปัญหาอย่าง "เซลลูไลท์" และหลากหลายวิธีกับการกำจัดมันให้หมดไป

          เซลลูไลท์ (Cellulite) คือก้อนไขมันใต้ผิวหนังที่ทำให้ผิวหนังแลดูตะปุ่มตะป่ำเหมือนเปลือกผิวมะกรูด หลายคนอาจคุ้นกับชื่อ "ผิวเปลือกส้ม" หรือ "ผิวหนังไก่" มากกว่าก็ได้ ซึ่งสาเหตุของเจ้าเซลลูไลท์เชื่อว่าเกิดจากการที่มีการไหลเวียนของระบบเลือด ในบริเวณนั้นลดลง การคั่งของน้ำเหลือง และภาวะฮอร์โมนที่ไม่สมดุล มักพบได้บ่อยในบริเวณต้นแขน ต้นขา หลัง คอ ไหล่ ท้องน้อย พบแม้แต่บริเวณลำคอและหน้า สามารถสำรวจตัวเองได้ง่าย ๆ จากการดูบริเวณต้นขา ก้น ซึ่ง 2 บริเวณนี้จะเกิดขึ้นมากที่สุด The pinch test โดยการใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บีบผิวหนังบริเวณที่สงสัย หากมีเซลลูไลท์ผิวบริเวณดังกล่าวจะมีลักษณะเหมือนผิวส้ม

          และ สาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้คุณแม่หลังตั้งครรภ์มีเจ้าเซลลูไลท์อยู่ก็เพราะว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนของร่างกาย ระดับเอสโตเจนที่มากเกินไปจะทำให้ผนังกั้นไขมันไม่แข็งแรง ไขมันบางส่วนจะถูกเบียดไปชั้นใต้ผิวหนังทำให้เกิดเป็นก้อนใต้ผิวหนัง เรามักจะพบเซลลูไลท์ในคนหลังตั้งครรภ์ หรือคนที่รับประทานยาคุมกำเนิด

     1. การควบคุมอาหารและน้ำ

          อาหารที่ก่อให้เกิดเซลลูไลท์และควรที่จะงด ได้แก่ อาหารที่อุดมไปด้วย Toxin เช่น ไขมัน อาหารหวาน อาหารมัน ประเภทนม เนย น้ำตาล ช็อกโกแลต ไอศกรีม ของทอด สุรา น้ำตาล หากรับประทานอาหารเหล่านี้มากเกินไปจะทำให้ร่างกายไม่สามารถกำจัดออกหมดเกิด การสะสม จึงควรหลีกเลี่ยง พยายามควบคุมให้น้ำหนักคงที่ อย่าปล่อยตัวให้อ้วนเกินไป ถ้าอ้วนอยู่แล้ว ต้องค่อย ๆ ลดน้ำหนักลง และควรดื่มน้ำให้เพียงพอกับร่างกาย ต้องการประมาณวันละ 8 แก้ว ควรเพิ่มปริมาณผักผลไม้สด บางคนบอกว่าเอนไซม์จากผักผลไม้ช่วยย่อยสลายไขมันได้

          ข้อแนะนำ : สามารถควบคุมได้ด้วยตัวเองประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ผลจะขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าจะสามารถควบคุมตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน จึงอาจทำให้เห็นผลช้า หรือบางคนที่มีเซลลูไลท์มาก ๆ อาจจะไม่เห็นผลเลยก็เป็นได้ ส่วนการบริโภคผักผลไม้สด ๆ ที่เริ่มเป็นเซลลูไลท์เท่านั้น



     2. การนวดเบา ๆ ตามบริเวณที่มีเซลลูไลท์ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
          การนวดที่คล้าย ๆ กับการนวดสปาเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะสามารถช่วยได้ดีคือการนวดเบา ๆ ตามบริเวณที่มีเซลลูไลท์ จะทำให้เนื้อเยื่อเกี่ยวพันแข็งแรงขึ้น และออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น และเพิ่มการไหลเวียนของเลือด

          ข้อแนะนำ : เหมาะสำหรับคนที่ไม่สะดวกในเรื่องของการควบคุมอาหาร การนวดจะทำให้เซลลูไลท์บริเวณนั้นตึงขึ้น เห็นผลเร็วกว่าการควบคุมอาหารด้วยตัวเอง

     3. การใช้อาหารเสริม หรือครีมกำจัดเซลลูไลท์ หรือการพันด้วยพลาสติก

          การทาครีมสลายเซลลูไลท์ หรือการนวดด้วยครีมสลายเซลลูไลท์ อาจช่วยได้บ้างเล็กน้อยหรืออาจไม่ได้เลย ยังไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัดว่าการกำจัดเซลลูไลท์โดยการใช้ครีมกำจัดเซลลูไล ท์, การพันด้วยพลาสติก, การฝังเข็ม, เครื่องมือหรือเครื่องออกกำลังกาย เช่น สายพานหรือเข็มขัด ที่เอามาเขย่าหรือสั่นลงบนบริเวณที่มีเซลลูไลท์ สามารถใช้ได้ผลมากน้อยเพียงใด

          ข้อแนะนำ : วิธีนี้อาจมีราคาที่ค่อนข้างแพง ซึ่งผู้ที่ต้องการกำจัดเซลลูไลท์บางคนอาจได้ผล หรือไม่ได้ผลก็เป็นได้ จึงทำให้เสี่ยงต่อผลที่จะตามมา เพราะทางการแพทย์ถือว่ายังไม่มีหลักฐานที่สามารถยืนยันได้ชัดเจน

     4. Endermologie เทคนิคการนวดและดูด 3 ทิศทาง

          ขบวนการนี้ทำให้มีการปรับโครงสร้างใหม่ของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ผิวหนัง กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและน้ำเหลือง รวมทั้งช่วยกำจัดของเสียออกจากร่างกาย โดยจะช่วยกำจัดเซลลูไลท์และไขมันส่วนเกินของร่างกาย และยังทำให้ผิวเนียนเรียบและรูปร่างเพรียวขึ้น Improving skin fitness, Improve scar tissue and burn, Increase circulation, Relieve of musoular pain, Reducing cellulite, Body shaping

          ข้อแนะนำ : จำเป็นต้องทำต่อเนื่องสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง และทำต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเห็นผล แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอาจดีขึ้นในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น คนไข้จำเป็นต้องควบคุมอาหารไปด้วยจึงจะเห็นผลได้ชัดเจน

     5. การใช้เครื่องมือประเภท Perfect s

          เป็นเครื่องมือทางการแพทย์เพื่อลดปัญหาเรื่องเซลลูไลท์ และปรับรูปร่างให้ได้สัดส่วน ซึ่งใช้เทคโนโลยี อาทิ คลื่นวิทยุ, แสงอินฟาเรด, ลูกกลิ้ง, แรงดูดสุญญากาศ, IR ช่วยเพิ่มการส่งผ่านออกซิเจนที่จับอยู่กับเม็ดเลือดแดงไปสู่เนื้อเยื่อภาย หลังการกระตุ้นให้เกิดความร้อนจากแสงอินฟราเรด ส่วน RF ช่วยเพิ่มการซึมผ่านออกซิเจนระหว่างเซลล์โดยการกระตุ้นให้เกิดความร้อนในผิว หนังด้านลึก เพิ่มกระบวนการเผาผลาญไขมันที่เกิดขึ้นภายใน ไมโตรคอนเดรียของเซลล์ ภายหลังการทำให้เกิดกระบวนการเผาผลาญเซลล์ไขมันจะทำให้เซลล์ไขมันหดตัวและ กระชับตัวขึ้น

          ข้อแนะนำ : ต้องทำประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำต่อเนื่องประมาณ 5-10 ครั้ง จึงจะดีขึ้น แล้วหลังจากนั้นบางคนอาจจะกลับมาทำอีกเดือนละครั้ง หากเป็นใหม่ก็สามารถกลับมาทำใหม่ได้


6. ใช้เครื่องทุ่นแรง ถ้าไม่มีเวลาออกกำลังกาย นั่นคือการใช้แสง อินฟราเรดระยะไกล เผาผลายไขมัน อย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก ในยุคปัจจุบัน เพราะนอกจากการละลายไขมัน (ควบคุมนน. ) แล้ว ยังรักษษผิวพรรณ ขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย ตลอดจน ป้องกันและรักษาโรคต่าง ๆ อีกด้วย อ่านข้อมูลเกี่ยวกับ การใช้แสงอินฟราเรดได้ที่นี่ค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น