นายนฐกร พจนสัจ ผู้จัดการอีเอ็มซี อิน ฟอร์เมชั่น ซิสเต็มส์ (ประเทศไทย) กล่าวถึงทิศทางอุตสาหกรรมไอทีในช่วงปี 2556 ว่า จะมีการปฏิรูปไอที เทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชั่นและบริการคลาวด์จะมีบทบาทสำคัญ
ด้านบิ๊กดาต้าจะเป็นช่วงเวลาที่สดใส เพราะองค์กรธุรกิจต่างๆ ภายในปี 2559 เอเชีย-แปซิฟิกจะสร้างทราฟิกคลาวด์มากที่สุด นั่นคือ 1.5 เซตตาไบต์ต่อปี องค์กรต่างๆ จะเก็บเกี่ยวพลังและคุณประโยชน์ของบิ๊กดาต้า เพื่อปรับปรุงความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจและการกลั่นกรองข้อมูลเพื่อ ประสิทธิภาพที่สูงกว่าและผลตอบแทนการลงทุนที่ดีกว่า
นายนฐกรกล่าวอีกว่า ขณะที่ระบบไอทีจะน่าเชื่อถือ โดยเวอร์ชวลไลเซชั่น คลาวด์คอมพิวติ้ง เทคโนโลยีโมบายล์ และแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้องกับบิ๊กดาต้า ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อรูปแบบการสร้าง นำเสนอ และจัดการข้อมูลภายในองค์กร
ปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นภายในโครงสร้างพื้นฐานไอที รวมไปถึงแอพพลิเคชั่น และสภาพแวดล้อมคลาวด์ ส่งผลให้องค์กรต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านความปลอดภัยใน รูปแบบใหม่ๆ จึงจำเป็นต้องพัฒนาระบบและโซลูชั่นที่ช่วยหลีกเลี่ยงความเสี่ยงดังกล่าว
สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นในปี 2555 นายนฐกรทบทวนว่า มีการปรับใช้เทคโนโลยีคลาวด์คอมพิวติ้งอย่างจริงจังและแพร่หลาย ขณะเดียวกันเรื่องของโมบิลิตี้ก็มีความสำคัญ โดยเป็นผลมาจากกระแสการนำเอาอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ในที่ทำงาน (Bring Your Own Device-BYOD) และการนำเอาเทคโนโลยีสำหรับผู้บริโภคมาปรับใช้ภายในองค์กร (Consumerization of IT)
องค์กรธุรกิจต่างๆ ได้สำรวจตรวจสอบและเริ่มต้นใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้พนักงานทำงานได้อย่างมี ประสิทธิภาพและยืดหยุ่น โดยอาศัยเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รองรับระบบคลาวด์ ซึ่งรองรับการใช้งานที่ราบรื่น ปลอดภัย และสอดรับกับความต้องการของผู้ใช้
ตามที่ Canalys รายงานว่า การปฏิรูปดาต้าเซ็นเตอร์จะส่งผลให้มีการใช้จ่ายงบฯ ในปีนี้ เพิ่มขึ้น 6% จากปี 2554 โดยภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกคิดเป็นสัดส่วนหนึ่งในสี่ของการลงทุนดาต้าเซ็น เตอร์ทั่วโลกในช่วง 5 ปี ซึ่งส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทัศนคติขององค์กรให้เริ่มมองว่าฝ่ายไอทีมี ความสำคัญที่จะช่วยสร้างมูลค่า
ปรากฏการณ์บิ๊กดาต้าส่งผลให้ต้องทบทวนบทบาทของระบบวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึก ด้านธุรกิจ นอกจากนี้ ยังใช้งานเพื่อสาธารณะ เช่น การยับยั้งโรคระบาด และการกลั่นกรองข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการของผู้มีสิทธิ์ออกเสียง เลือกตั้ง
นายนฐกรกล่าวว่า อีเอ็มซีมีบทบาทสำคัญในการชี้นำกระแสแนวโน้มที่ว่านี้ เพื่อสำรวจตรวจสอบผลกระทบทางสังคมของ บิ๊กดาต้าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ โดยเปิดตัวโครงการที่ระดมทรัพยากรจากทั่วโลกอ้างอิงสมมติฐานที่ว่า การแสดงผลแบบ เรียลไทม์สำหรับข้อมูลที่เก็บรวบรวมผ่านดาวเทียม รวมถึงเซ็นเซอร์ แท็ก RFID กล้องและสมาร์ตโฟนที่รองรับ GPS หลายพันล้านเครื่องในทุกที่ทั่วโลก ช่วยให้มนุษย์เราตรวจจับ ตรวจวัด ทำความเข้าใจ และสร้างผลกระทบต่อแง่มุมต่างๆ ของชีวิตอย่างไม่น่าเชื่อ
ที่มา : หนังสือพิมพ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น